สภาพปัญหาและแนวทางการบริหารงานบุคคลของวิทยาลัยสงฆ์จำปาสัก เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานบุคคลของวิทยาลัยสงฆ์จำปาสัก เมืองปากเซ แขวงจำปาสักประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 2) เพื่อเปรียบเทียบสภาพการบริหารงานบุคคลของวิทยาลัยสงฆ์จำปาสัก จำแนกตาม ตำแหน่งและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน 3) เพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางการบริหารงานบุคคลของวิทยาลัยสงฆ์จำปาสัก ตัวอย่างที่ใช้วิจัยคือ ผู้บริหารและอาจารย์ผู้สอน วิทยาลัยสงฆ์จำปาสัก ปีการศึกษา 2561 จำนวน 50 คนเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสัมภาษณ์เชิงลึกและแบบสอบถามแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 50 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .89 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าซี
ผลการวิจัยพบว่า
- สภาพการบริหารงานบุคคลของมหาวิทยาลัยสงฆ์จำปาสัก โดยรวมอยู่ในระดับมาก
- การเปรียบเทียบสภาพการบริหารงานบุคคลของวิทยาลัยสงฆ์จำปาสักจำแนกตาม ตำแหน่งและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยรวมไม่แตกต่างกัน
- ผลการศึกษาปัญหาและแนวทางการบริหารงานบุคคลของวิทยาลัยสงฆ์จำปาสัก พบว่า
3.1 ด้านการสรรหาบุคลากร ปัญหาคือ คุณวุฒิของผู้ที่จะเข้ามาเป็นอาจารย์ผู้สอนโดยเฉพาะ วิชาพุทธศาสนา มีคุณวุฒิที่ต่ำกว่าปริญญาตรี ทำให้ส่งผลต่อความเชื่อถือของผู้เรียนในระดับปริญญาตรี แนวทางคือ การส่งเสริมให้เพิ่มประสบการณ์และคุณวุฒิโดยการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ในประเทศที่มีพุทธศาสนา เช่น อินเดีย พม่า และไทย เป็นต้น
3.2 ด้านการคัดเลือกบุคลากร ปัญหาคือ บุคลากรที่รับเข้ามาไม่ตรงสายและตำแหน่งเนื่องจากยังขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง เช่น ด้านพระพุทธศาสนา สาขาฟิสิกส์ เป็นต้น แนวทางคือ การรับบุคลากรที่มีคุณวุฒิใกล้เคียงกัน เช่น รับสาขาคณิตศาสตร์ มาทดแทนสาขาฟิสิกส์
3.3 ด้านการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร ปัญหาคือ ยังขาดงบประมาณสนับสนุนในการพัฒนาอาจารย์ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ศึกษาในต่างประเทศ ในสาขาที่ขาดแคลน โดยเฉพาะพระสงฆ์ ขาดเอกสารตำราการสอนใหม่ๆ แนวทางคือ การกำหนดจำนวน จัดสรรโควต้าให้ศึกษาต่อโดยได้รับทุนจากรัฐบาลและมหาวิทยาลัย ส่งเสริม อาจารย์พัฒนาค้นคว้า งานวิชาการ วิจัยแต่งตำราเอกสารเพื่อขอผลงานตำแหน่งทางวิชาการ
3.4 ด้านการประเมินผลการปฏิบัติงาน ปัญหาคือ ปริมาณงานและสัดส่วนการทำงานไม่เท่ากัน ในบางตำแหน่งต้องทำงานทั้งด้านการบริหารและการสอน คะแนนการประเมินไม่แตกต่างกันมากทำให้พิจารณาค่อนข้างยาก แนวทางคือ มีการกำหนดกรอบการประเมินที่ชัดเจน มีการประเมินตนเองจากผลการปฏิบัติงานในรอบปี นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการประเมิน พูดคุยทำความเข้าใจกันก่อนพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน
3.5 ด้านการจัดสวัสดิการให้บุคลากร ปัญหาคือ ยังขาดแคลนงบประมาณสนับสนุน แนวทางคือ การเรียนการสสอนให้การสนับสนุนค่าช่วยเหลืออื่น เช่น ค่ารักษาพยาบาล สนับสนุนงบประมาณการเดินทาง ค่าวัสดุอุปกรณ์ตามสมควร ให้ขวัญกำลังใจแก่บุคลากรเช่น งานแต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่เป็นต้น
Article Details
References
จีรภัทร เชียงทอง. ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคลากรของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา, 2557.
ธงชัย สันติวงษ์. การบริหารงานบุคคล. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช, 2542.
นวลถวิล สุชาดาวุฒิ. สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคลากรของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม, 2550.
วิทยา ศรีจันทร์หล้า. สภาพและปัญหาการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 4. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 2553.
วีระ สุรินทร์. การบริหารงานบุคลากรของโรงเรียนขนาดเล็กในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่. การค้นคว้าแบบอิสระศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2553.
อภิญญา แสนสุข. ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคคลโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา, 2555.
Scott Edward, Meier. “Northern California School Superintendents’[ Perceptions Regarding Conflicts with Board Member in the Area of Human Resource Administration,” Thesis (Ed.D) University of La Veme, 2001.