การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เรื่อง การออมและการลงทุนตามหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำเนินชีวิตอย่างมีดุลยภาพโดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) รายวิชาสังคมศึกษาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานองค์ประกอบหลักและความต้องการจำเป็นของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เรื่อง การออมและการลงทุนตามหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำเนินชีวิตอย่างมีดุลยภาพ โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) รายวิชาสังคมศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เรื่อง การออมและการลงทุนตามหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำเนินชีวิตอย่างมีดุลยภาพ โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) รายวิชาสังคมศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (3) เพื่อขยายผลการใช้และประเมินผลการใช้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เรื่อง การออมและการลงทุนตามหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำเนินชีวิตอย่างมีดุลยภาพ โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) รายวิชาสังคมศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้แบบแผนการทดลองแบบกลุ่มเดียวสอบก่อนหลัง กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จํานวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ทดลอง คือ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบ แบบประเมิน และแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) มี 5 ขั้นตอน คือ การสร้างความสนใจ การสํารวจและค้นหา การอธิบายและลงข้อสรุป การขยายความรู้ และการประเมินผล 2) นักเรียนมีคะแนนผลการเรียนรู้สูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลจากการขยายผลการใช้และประเมินผลการใช้ พบว่า นักเรียนมีคะแนนผลการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมวิชาการ. (2545). เอกสารประกอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544
แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียน ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544.
กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
นิตยา พูลแสง. (2554). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 2. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. บัณฑิตวิทยาลัย:มหาวิทยาลัยบูรพา.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ:สุวีริยาสาส์น
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ:สุวีริยาสาส์น.
เมตตา ภัทราภรณ์ไพบูลย์. (2556). การศึกษาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1. บัณฑิตวิทยาลัย:มหาวิทยาลัยบูรพา.
รัตนา อนันตชาติ. (2550). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโรงเรียนประถมศึกษาใน
อําเภอเมืองชลบุรี สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต 1. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต
สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา.
โรงเรียนบำเหน็จณรงค์วิทยาคม. (2562). รายงานการประเมินตนเอง ปีการศึกษา 2562. ชัยภูมิ
โรงเรียนบำเหน็จณรงค์วิทยาคม.
โรงเรียนบำเหน็จณรงค์วิทยาคม. (2563). รายงานการประเมินตนเอง ปีการศึกษา 2563. ชัยภูมิ:โรงเรียนบำเหน็จณรงค์วิทยาคม.
วรภัทร์ ภู่เจริญ. (2543). แนวทางการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา. กรุงเทพฯ:ส.ส.ท.
ศิริพร ธนะสมบูรณ์. (2552). การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาขอนแก่น.วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา.มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.). (2554). แนวทางการปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ:ทีคิวพี.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2547). การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: องค์การ
รับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.).
สายทอง พรมทอง. (2554). สภาพและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโรงเรียนในพื้นที่พิเศษ
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 1. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย/เชียงราย.
Pornthem Rupun. (2003). The expected role and performance of the basic education
institute committee. Country report. Office of education council.Thailand.