การพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โรงเรียนบ้านอาจสามารถ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5: การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนบ้านอาจสามารถ ใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของผู้วิจัย และคณะครู 6 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ แบบประเมินความพึงพอใจ และแบบบันทึกภาคสนาม ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 2 วงรอบ 8 ขั้นตอน 5 องค์ประกอบ 17 ตัวบ่งชี้เป้าหมายเชิงประจักษ์ ตามแผนงานโครงการหลัก 3 โครงการ คือ 1) โครงการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยครูสอนให้นักเรียนลงมือปฏิบัติผ่านกระบวนการคิด ทุกระดับชั้นเรียนในโรงเรียน ได้แก่ องค์ประกอบที่ 4 จำนวน 3 ตัวบ่งชี้ โดยจบรรลุเป้าหมายเชิงประจักษ์ได้ 2 ตัวบ่งชี้ ยังมีตัวบ่งชี้เป้าหมายเชิงประจักษ์ที่ทำไม่สำเร็จ 1 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ ครูมีภาวะผู้นำที่เป็นผู้สร้างให้เกิดการนำ และภาวะผู้นำชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู 2) โครงการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ มีตัวบ่งชี้เป้าหมายเชิงประจักษ์ 10 ตัวบ่งชี้ จากองค์ประกอบที่ 1, 2 และ 5 โรงเรียนสามารถดำเนินการบรรลุเป้าหมายเชิงประจักษ์ได้ 9 ตัวบ่งชี้ ยังมีตัวบ่งชี้เป้าหมายเชิงประจักษ์ที่ยังทำไม่สำเร็จ1 ตัวบ่งชี้ คือ ครูทุกคนคือผู้เรียนรู้ มีการแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน 3) โครงการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา องค์ประกอบที่ 3 จำนวน 4 ตัวบ่งชี้ และบรรลุเป้าหมายเชิงประจักษ์ได้ครบถ้วนทุกตัวบ่งชี้ จึงได้ดำเนินการวิจัยตามกระบวนการวงรอบที่ 2 ขั้นตอนที่ 5 - 8 ต่อ โดยดำเนินการยกระดับความสำเร็จของตัวบ่งชี้เป้าหมายเชิงประจักษ์ที่ประสบผลสำเร็จแล้วให้เพิ่มสูงขึ้น ส่วนตัวบ่งชี้เป้าหมายเชิงประจักษ์ที่ยังดำเนินการไม่สำเร็จได้นำกลับมาเข้าสู่กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) ในวงรอบที่ 2 เพื่อดำเนินการให้ประสบกับความสำเร็จบรรลุเป้าหมายครบทุกตัวบ่งชี้ และ2) ผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 3 ระดับ คือ ระดับบุคคล ระดับกลุ่ม และระดับโรงเรียน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
เจนณรงค์ วิธีดี. (2565). การพัฒนารูปแบบการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านกุดกว้างประชาสรรค์. วารสารครุศาสตร์ปัญญา, 1(6), 1-15.
ชนิดา รักษ์พลเมือง. (2556). ชุมชนห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาวิชาชีพครู. http://www.teachersaslearners.com.front/blog_one/86
ชัชวาล อาราษฎร์. (2559). การพัฒนาชุมชนวิชาการในโรงเรียนการศึกษาภาคบังคับด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ธีร์ ภวังคนันท์, สุกิจ โพธิ์ศิริกุล, วรวิทย์ กุลจิรกาญจน์, สุรพล ทับทิมหิน และทินกร ภาคนาม. (2565). กลยุทธ์การพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรเพื่อส่งเสริมการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้. วารสารครุศาสตร์ปัญญา, 1(1), 29-42.
นิพล อินนอก. (2562). งานวิจัยตัวแปรที่ส่งผลต่อความเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ ของโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก ในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต. นครราชสีมา : มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล.
ประเวศ วะสี. (2556). ชุมชนการเรียนรู้ครู: เปลี่ยน “ห้องเรียน” ให้เป็น”ห้องเรียน (รู้)”. ในรายงานสรุปการเสวนาวิชาการเวทีปฏิรูปการเรียนรู้สู่การศึกษาเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 17. 4 มิถุนายน 2556. โรงแรมมิราเคิล กรุงเทพมหานคร.
โรงเรียนบ้านอาจสามารถ. (2564). รายงานการประเมินตนเอง (SSR) ปีการศึกษา 2563. ขอนแก่น: ฝ่ายวิชาการโรงเรียนบ้านอาจสามารถ.
วรลักษณ์ ชูกำเนิด และ เอกรินทร์ สังข์ทอง. (2557). โรงเรียนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู เพื่อการพัฒนาวิชาชีพครูที่เน้นผู้เรียนเป็นหัวใจสำคัญ. วารสารวิทยบริการมหาวิทยาลัยสงชลานครินทร์, 25(1), 1-10.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิธีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: ตถาคาพับลิเคชั่น.
วิราวรรณ์ เพ็ชรนาวา. (2563). แนวทางการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพชองโรงเรียนมัธยมศึกษาในสหวิทยาเขตวิภาวดี กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, ภาควิชาพื้นฐานทางการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วิโรจน์ สารรัตนะ (2561). การวิจัยทางการบริหารการศึกษา: แนวคิดและกรณีศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: ทิพยวิสุทธิ์.
สายสมร ศักดิ์คำดวง, สุพจน์ ประไพเพชร, สุดสวาสดิ์ ประไพเพชร, วสันต์ แสงเหลา, และไกศิษฏ์ เปลรินทร์. (2565). การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม: แนวทางการประยุกต์ใช้ในสถานศึกษา. วารสารครุศาสตร์ปัญญา, 1(3), 38-52.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. http://www.P21.org/Framework
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน). (2556). รายงานการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม. กรุงเทพฯ: สำนักงาน.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2554). ข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2552-2561). พิมพ์ครั้งที่ 5.กรุงเทพฯ : พริกหวานกราฟฟิค.
Bolam et al. (2005). Creating and Sustaining Effective Professional Learning Communities. Nothingham: University of Bristol.
Bryk, A. Camburn, E, and Louise, K.S. (1999). Professional Learning in Chicago Elementary School. Facilitating Factors and Organizational Consequences. Educational Administration Quarterly.35 supplement (1999):751-781.
Bulkley, K.E. and Hicks, J. (2005). Managing Community: Professional Community in Charter Schools operated by Educational Management Organization. Educational Administration Quarterly, 41(2).
Cibulka, J., and Nakyama, M. (2003). Practitioner’s Guide to Learning Communities. Creation of high-performance schools through organizational and individual learning. Washington, DC: National Partnership for Excellence and Accountability in Teaching.
DuFour, R., & Eaker. R. (1988). Professional Learning Communities at Work. Best practice for Enhancing Student Achievement. Bloomington: National Education Service.
Hord, S.M. (1997). Professional Learning Communities: Communities of Continuous Inquiry and Improvement. Texas: Southwest Educational Development Laboratory.
Kemmis, S; & McTaggart. R. (1988). The Action Research Planner. 3rd ed. Victoria : Deakin University Press.
Servage, L. (2008). Critical and Transformative Practices in Professional Learning Communities. Teacher Education Quarterly: Winter.