การพัฒนาเครื่องมือวัดสมรรถนะแกนกลางผู้เรียนอาชีวศึกษาในรายวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาคุณภาพของเครื่องมือเครื่องมือวัดสมรรถนะแกนกลางผู้เรียนอาชีวศึกษาในรายวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชชาชีพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปีการศึกษา 2564 สถานศึกษในสังกัดอาชีวศึกษา จังหวัดระยอง จำนวน 5 วิทยาลัย จำนวน 340 คน โดยใช้วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Random Sampling) โดยเครื่องมือวัดสมรรถนะแกนกลางผู้เรียนอาชีวศึกษาที่พัฒนาขึ้น มี 3 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 วัดความรู้ ฉบับที่ 2 วัดทักษะ และฉบับที่ 3 วัดความสามารถในการประยุกต์ใช้และความรับผิดชอบ ผู้วิจัยได้ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item-Objective Congruence: IOC) ค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) ค่าความเชื่อมั่น (Reliability) โดยใช้สูตร KR-20, สัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach's Alpha Coefficient), และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบอินทราคลาส (Intraclass Correlation Coefficient: ICC) ผลการวิเคราะห์ค่า IOC พบว่า ข้อคำถามส่วนใหญ่มีค่าอยู่ในเกณฑ์เหมาะสม (0.67–1.00) และได้รับการปรับปรุงก่อนการทดลองใช้ ผลการวิเคราะห์คุณภาพเครื่องมือแสดงให้เห็นว่า เครื่องมือมีค่าความยาก ค่าอำนาจจำแนก และค่าความเชื่อมั่นในระดับที่เหมาะสม โดยเฉพาะเครื่องมือด้านทักษะที่มีค่าความเชื่อมั่นจากการวิเคราะห์ Interrater Reliability อยู่ในระดับสูง (p < .05) และมีค่าความสัมพันธ์กับ GPA สูงที่สุด (r = 0.423) ขณะที่ด้านความรู้และความสามารถในการประยุกต์ใช้มีค่าความสัมพันธ์ในระดับปานกลางและต่ำตามลำดับ ผลการวิจัยสนับสนุนว่า เครื่องมือวัดที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพและสามารถนำไปใช้ประเมินผลสมรรถนะของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการพัฒนาการเรียนการสอนในสายอาชีวศึกษาได้อย่างเหมาะสม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กมลวรรณ เจนวิถีสุข. (2566). การพัฒนาเครื่องมือวัดและประเมินผลออนไลน์เพื่อวัดความก้าวหน้าทางการศึกษาและพัฒนาผู้เรียนของนักศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต. วารสารการทดสอบและการประเมินทางการศึกษาระดับชาติ, 4(1), 1-17.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2563). นโยบายและจุดเน้นการจัดการศึกษา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
ชไมพร ดิสถาพร และคณะ. (2564). เอกสารประกอบการสอน รายวิชา ศษ 431 การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้และเครือข่ายการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ชัยวิชิต เชียรชนะ. (2552). การวิเคราะห์พหุมิติ (Multidimensional Analysis). วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 32(4). 13-22.
นัทธีรัตน์ พีระพันธุ์. (2561). การพัฒนาเครื่องมือประเมินสมรรถนะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่จำเป็นในการจัดการเรียนรู้สำหรับครูในศตวรรษที่ 21. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์, 19(1), 244-260.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ปิยะฉัตร ไวทยาภิรมย์. (2561). การประเมินสมรรถนะผู้เรียนอาชีวศึกษาในรายวิชาวิทยาศาสตร์ ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ. วารสารวิชาการอุตสาหกรรมศึกษา, 12(1), 80-95.
พรทิพย์ เพนแฟร์ และคณะ. (2563). การพัฒนาเครื่องมือวัดและประเมินสมรรถนะผู้เรียนตามหลักสูตรฐานสมรรถนะ. วารสารวิจัยทางการศึกษา, 15(1), 246-261.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2550). ทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2562). หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562. กรุงเทพฯ: สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2563). แนวทางการจัดการเรียนการสอนและการวัดผลประเมินผลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. กรุงเทพฯ: สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ.
สำนักทดสอบทางการศึกษา. (2555). ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา: กรอบและแนวการดําเนินงาน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภา.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551). แนวทางการบริหารจัดการหลักสูตร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
เสน่ห์ สิงห์นุ้ย. (2546). การศึกษารูปแบบการตีค่าความสามารถที่แท้จริงของนักเรียน. วิทยานิพนธ์ (กศ.ม. การวัดผลการศึกษา). มหาวิทยาลัยทักษิณ
สุรศักดิ์ ปาเฮ. (2564). การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ออนไลน์ภายใต้สถานการณ์ COVID-19. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 15(1), 1-13.
Baneres et al. (2020). An autonomous online examination system for skill-based STEM courses. Computers & Education, 143, 103671. https://doi.org/10.1016/j.compedu.2019.103671
Binkley et al. (2014). Defining twenty-first century skills. In Assessment and teaching of 21st century skills (pp. 17-66). Springer. https://doi.org/10.1007/978-94-007-2324-5_2
Brown, Collins, & Duguid. (1989). Situated Cognition and the Culture of Learning. Educational Researcher, 18(1), 32-42.
Canale. (1987). The Measurement of Communicative Competence. Applied Linguistics, 8(1), 67-84.
Chiu. (2021). Applying the self-determination theory (SDT) to explain student engagement in online learning during the COVID-19 pandemic. Journal of Research on Technology in Education, 54 (sup1), S14-S30. https://doi.org/10.1080/15391523.2021.1891998
Garrison, D.R. (2013). The Community of Inquiry Theoretical Framework. In: Moore, M.G., Ed., Handbook of Distance Education, Routledge, 104-120.
https://doi.org/10.4324/9780203803738.ch7
Krejcie. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.
Lockyer et al. (2017). Core principles of assessment in competency-based medical education. Medical Teacher, 39(6), 609-616.
Nunnally. (1978). Psychometric theory. 2nd Edition, McGraw-Hill, New York.
Peterson. (2012). Efl learner collaborative interaction in second life. ReCALL, 24(1), 20-39.
Vaughan, N.D., Cleveland- Innes M., & Garrison, D.R. (2013). Teaching in blended learning environments: Creating and sustaining communities of inquiry. Athabasca University Press.