FACTOR RELATED TO SELF - CARE BEHAVIOR FOR PREVENTION OF STROKE AMONG PATIENTS WITH UNCONTROLLED HYPERTENSION
Main Article Content
Abstract
This descriptive correlational study aimed to factors related to self - care behavior for prevention of stroke among patients with uncontrolled hypertension. The sample consisted of 351 patients. The research instrument was a questionnaire with the content validity approval of the three experts. IOC (Index of Item Objective Congruence) was between 0.78 and 1.00 and its reliability was 0.85 and 0.98. Data collection were carried out from July 2023 until January 2024. Descriptive statistics and Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient were used to analyze data. The results show the health belief model that perceived susceptibility to behaviors for disease prevention was moderately positive correlated and significantly (r = 0.68, p < .001). Perceived disease severity was statistically significant associated with a moderately level (r = 0.65, p < .001) Perceived benefits to behaviors for disease prevention was moderately positive correlated and significantly (r = 0.58, p < .001). Perceived barriers was lowly positive correlated and significantly (r = 0.45, p < .001) and Perceived induction was statistically significant associated with a moderate level (r = 0.76, p < .001) of self - care behavior in the prevention of stroke among patients with uncontrolled hypertension.
Article Details
References
เกษริน อุบลวงศ์ และนัยนา พิพัฒน์วณิชชา. (2562). “การสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อด้านสุขภาพกับพฤติกรรมป้องกันโรคสมองเสื่อมของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง”. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีกรุงเทพ, 33(2), 14-24.
จินตนา จักรสิงโต และรัตนา พันจุย. (2561). “ประสิทธิผลของโปรแกรมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ โรงพยาบาลโคกสูง จังหวัดสระแก้ว”. วารสารโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์, 12(1), 56-67.
ชัญญานุช ไพรวงษ์ และคณะ. (2562). การศึกษาความเชื่อด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา, 11(1), 107-116.
ถาวรีย์ แสงงาม. (2560). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะด้านโรคหลอดเลือดสมองของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล. ใน ดุษฎีนิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาภาวะผู้นำเพื่อพัฒนาวิชาชีพ. มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์.
นันวลัย ไชยสวัสดิ์ และสถิร จินดาวงศ์. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ โรงพยาบาลกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 9(3), 70-82.
บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. (2553). ระเบียบวิธีวิจัยทางพยาบาลศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร: คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุบผา วิริยรัตนกุล และคณะ. (2564). แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพและความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตสูงได้. วารสารพยาบาลทหารบก, 23(2), 199-207.
วิไลเลิศ คำตัน. (2562). การจัดการตนเองของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง: การประยุกต์ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์. วารสารสภาการพยาบาล, 34(1), 25-41.
สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. (2562). วันโรคหลอดเลือดสมองโลก (Stroke Awareness Day). กรุงเทพมหานคร: สถาบันประสาทวิทยา.
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2566). จำนวนและอัตราตาย 11 โรคไม่ติดต่อและอุบัติเหตุทางถนน ต่อประชากรแสนคนปี 2560-2565 จำแนกตามจังหวัดในเขตบริการสาธารณสุข และจำแนกตาม สคร. 12 เขตและภาพรวมประเทศ (รวมกรุงเทพมหานคร). เรียกใช้เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2563 จาก http://thaincd.com/information-statostoc/non-communicable-disease-data.php
สุริยา หล้าก่ำ และศิราณีย์ อินธรหนองไผ่. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง ตำบลเหนือเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารพยาบาลตำรวจ, 9(2), 85-94.
American Heart Association. (2021). Heart disease and stroke statistics update fact sheet at-a-Glance. Retrieved February 1 , 2024, from https://www.heart.org/-/media/phd-fif iles-2/science-news/2/2021-heart-and-stroke
World Health Organization. (2021). The atlas of heart disease and stroke. Retrieved February 1 , 2024, from http://www.who.int/cardiovascular _disease/ resources/atlas/en/