ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้

Main Article Content

ชุติมา สร้อยนาค
จริยา ทรัพย์เรือง
อัจฉรา เดชขุน
กันยา สุวรรณคีรีขันธ์

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงพรรณนาเพื่อทดสอบความสัมพันธ์ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้จำนวน 351 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม ที่ผ่านการตรวจสอบความตรงในเนื้อหา            จากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับจุดประสงค์อยู่ระหว่าง 0.78 - 1.00 ความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.85 - 0.98 และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ Pearson Product Moment ที่ระดับการมีนัยสำคัญทางสถิติ ‹ 0.05          ผลการศึกษาพบว่าแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ได้แก่ ด้านการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลางกับพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = 0.68, p < .001) การรับรู้ความรุนแรงของโรคมีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = 0.65, p < .001) การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติพฤติกรรมการดูแลมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลางกับพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (r = 0.58, p < .001) การรับรู้อุปสรรคการปฏิบัติพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อเพื่อป้องกันโรคมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับพฤติกรรมป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = 0.45, p < .001) และสิ่งชักนำไปสู่การปฏิบัติมีความสัมพันธ์ทางบวก กับพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = 0.76, p < .001)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สร้อยนาค ช., ทรัพย์เรือง จ., เดชขุน อ., & สุวรรณคีรีขันธ์ ก. (2024). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 8(3), 130–139. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSC/article/view/272227
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เกษริน อุบลวงศ์ และนัยนา พิพัฒน์วณิชชา. (2562). “การสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อด้านสุขภาพกับพฤติกรรมป้องกันโรคสมองเสื่อมของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง”. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีกรุงเทพ, 33(2), 14-24.

จินตนา จักรสิงโต และรัตนา พันจุย. (2561). “ประสิทธิผลของโปรแกรมการรับรู้ความสามารถแห่งตนต่อพฤติกรรมการควบคุมความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ โรงพยาบาลโคกสูง จังหวัดสระแก้ว”. วารสารโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์, 12(1), 56-67.

ชัญญานุช ไพรวงษ์ และคณะ. (2562). การศึกษาความเชื่อด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา, 11(1), 107-116.

ถาวรีย์ แสงงาม. (2560). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะด้านโรคหลอดเลือดสมองของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล. ใน ดุษฎีนิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาภาวะผู้นำเพื่อพัฒนาวิชาชีพ. มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์.

นันวลัย ไชยสวัสดิ์ และสถิร จินดาวงศ์. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ โรงพยาบาลกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 9(3), 70-82.

บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. (2553). ระเบียบวิธีวิจัยทางพยาบาลศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร: คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

บุบผา วิริยรัตนกุล และคณะ. (2564). แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพและความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตสูงได้. วารสารพยาบาลทหารบก, 23(2), 199-207.

วิไลเลิศ คำตัน. (2562). การจัดการตนเองของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง: การประยุกต์ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์. วารสารสภาการพยาบาล, 34(1), 25-41.

สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. (2562). วันโรคหลอดเลือดสมองโลก (Stroke Awareness Day). กรุงเทพมหานคร: สถาบันประสาทวิทยา.

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2566). จำนวนและอัตราตาย 11 โรคไม่ติดต่อและอุบัติเหตุทางถนน ต่อประชากรแสนคนปี 2560-2565 จำแนกตามจังหวัดในเขตบริการสาธารณสุข และจำแนกตาม สคร. 12 เขตและภาพรวมประเทศ (รวมกรุงเทพมหานคร). เรียกใช้เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2563 จาก http://thaincd.com/information-statostoc/non-communicable-disease-data.php

สุริยา หล้าก่ำ และศิราณีย์ อินธรหนองไผ่. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง ตำบลเหนือเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารพยาบาลตำรวจ, 9(2), 85-94.

American Heart Association. (2021). Heart disease and stroke statistics update fact sheet at-a-Glance. Retrieved February 1 , 2024, from https://www.heart.org/-/media/phd-fif iles-2/science-news/2/2021-heart-and-stroke

World Health Organization. (2021). The atlas of heart disease and stroke. Retrieved February 1 , 2024, from http://www.who.int/cardiovascular _disease/ resources/atlas/en/