ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในมารดา ที่มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ 2) ศึกษาปัจจัยได้แก่ อายุ,รายได้ของครอบครัว, ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง, การทำหน้าที่ครอบครัว, ความเครียดของการเป็นมารดา และการสนับสนุนของสามี ที่มีอิทธิพลต่อภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทำนาย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ มารดาหลังคลอดที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะตั้งครรภ์ที่มารับบริการตรวจหลังคลอดที่แผนกวางแผนครอบครัว หรือพาบุตรมารับบริการที่แผนกสุขภาพเด็กดี ในระยะ 4-8 สัปดาห์หลังคลอด ณ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ระหว่างเดือน มิถุนายน 2564 ถึง เดือน ธันวาคม2564จำนวน 98 ราย โดยวิธีสุ่มอย่างเป็นระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคล, แบบสอบถามภาวะซึมเศร้าหลังคลอด, แบบสอบถามความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง, แบบสอบถามการทำหน้าที่ครอบครัว, แบบสอบถามความเครียดของการเป็นมารดา, แบบสอบถามการสนับสนุนของสามี วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพรรณนาและการวิเคราะห์ถดถอยแบบพหุผลการวิจัย พบว่า 1) มารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด คิดเป็นร้อยละ 14.29 2)ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง การทำหน้าที่ครอบครัว ความเครียดของการเป็นมารดา และการสนับสนุนของสามี สามารถร่วมอธิบายความแปรปรวนภาวะซึมเศร้าหลังคลอดของมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ได้ร้อยละ32.8(Adjusted R2 = .351, F4,93 = 17.264, p< .001) ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง การทำหน้าที่ครอบครัว และความเครียดของการเป็นมารดาสามารถทำนายภาวะซึมเศร้าหลังคลอดของมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์(= 0.314, p < .05,
=0.342, p< .001,
=0.316, p < .05 ตามลำดับ)
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2563). สถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข. เรียกใช้เมื่อ 12 มิถุนายน 2564 จาก http://healthkpi.moph.go.th/kpi2/kpi/index/?id=1409
กัลพร ยังดี และชุติมา หรุ่มเรืองวงษ์. (2559). ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนทางสูติศาสตร์ ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์. วารสารเวชศาสตร์ร่วมสมัย, 6(5), 561-574.
กุสุมา แสนบุญมา และคณะ. (2562). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในมารดาที่ผ่าตัดคลอดแบบฉุกเฉิน. ใน ดุษฎีนิพนธ์คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาการผดุงครรภ์ขั้นสูง. มหาวิทยาลัยบูรพา.
ปิยะภรณ์ ประสิทธิวัฒนเสรี. (2562). การพยาบาลและการผดุงครรภ์ : มารดาที่มีภาวะเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน. เชียงใหม่: บริษัท สมาร์ทโคตติ้ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด.
โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์. (2563). สถิติแผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์จังหวัดนครสวรรค์. นครสวรรค์: โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์.
วรรณี นวลฉวี และคณะ. (2561). ความชุกของภาวะซึมเศร้าหลังคลอดและปัจจัยทำนายภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในมารดาหลังคลอด. วารสารมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติวิชาการ, 21(42), 65-78.
วันชัย กิตติโชติวัฒน์. (2561). ความชุกและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอดของโรงพยาบาลแก่งคอย จังหวัดสระบุรี. วารสารกรมการแพทย์, 43(5), 125-130.
สุพรรณิกา ปานศรี และคณะ. (2562). ปัจจัยด้านการปรับตัวที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพจิตของมารดาหลังคลอด. วารสารพยาบาลทหารบก, 20(2), 160-169.
สุภัสสรา ภูเมฆ และคณะ. (2562). ปัจจัยทำนายภาวะซึมเศร้าของมารดาหลังคลอดที่มารับบริการที่โรงพยาบาลราชวิถี. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล, 35(3), 158-170.
แสงจันทร์ สุนันต๊ะ และคณะ. (2559). ผลของการให้ความรู้และการสนับสนุนมารดาวัยรุ่นครรภ์แรก และยายต่อความสำเร็จในการดำรงบทบาทการเป็นมารดา. วารสารพยาบาลทหารบก, 17(2), 125-134.
อุมาพร ตรังคสมบัติ. (2544). การปฏิบัติหน้าที่ของครอบครัว. จิตบำบัดและการให้คำปรึกษาครอบครัว. กรุงเทพมหานคร: ซันต้าการพิมพ์.
Abate, D. M. et al. (2020). Prevalence of postpartum depression and associated factors among postnatal care attendees in Debre Berhan Ethiopia. BMC pregnancy and childbirth, 20(2), 1-9.
Beck, C. T. (2001). Predictors of postpartum depression: An update. Nursing Research, 50(5), 275-285.
Bessi, M. (2017). Psychological well-being and depression from pregnancy to postpartum among primiparous and multiparous women. Journal of Reproductive and Infant Psychology, 35(2), 183-195.
Chen, J. et al. (2019). A systematic review of prevalence and risk factors of postpartum depression in Chinese immigrant women. Women and birth journal of Australian College of Midwives, 32(6), 487–492.
Cohen, J. (1992). A power primer. Psychological Bulletin, 11(1), 155-159.
Cox, J. et al. (1987). Detection of postnatal depression: Development of the 10-item Edinburgh Postnatal Depression Scale. The British Journal of Psychiatry: the Journal of mental science, 150(6), 782-786.
Faul, F. et al. (2009). Statistical power analyses using G* 3.1: Test for correlation and regression analysis. Behavior Research Methods, 41(4), 1149-1160.
Guodong, D. et al. (2019). Doing the month” and postpartum depression among Chinese women: A Shanghai prospective cohort study. Women and birth journal of Australian College of Midwives, 33(2), 151-158.
Hoang, O. et al. (2016). Factors predicting postpartum depression among women in HaiPhong City Vietnam. Journal of Boromarajonani College of Nursing, Bangkok, 32(1), 92-104.
House, J. S. (1981). Work Stress and Social Support. Massachusettes: Addison Wesley Publishing Company.
Lazarus, R. S. (1984). Coping and adaptation in handbook of behavioral medicine. New York: Guilfort press.
Lowdermilk, D. L. (2016). Maternity & Women,s Health Care (11th edition). New York: Elsevier.
Muraca, G. M. & Joseph. K. S. (2014). The association between maternal age and depression. Journal of obstetrics and gynaecology Canada, 39(9), 803-810.
Peiqin, L. et al. (2020). Prevalence and factors associated with postpartum depression during the COVID-19 pandemic among women in Guangzhou China: a cross-sectional study. BMC Psychiatry, 20(1), 1-8.
Perry, S. E. et al. (2014). Maternal Child Nursing Care (5thed.). Canada: Elsevier.
Romero, A. M. O. et al. (2012). Coping and adaptation process during puerperium. Columbia Medica, 43(2), 167-174.
Rosenberg, M. (1989). Society and the adolescent self-image.Middletown, Connecticut: Wesleyan University Press.
Sitotaw, K. et al. (2018). Prevalence and associated factors of postpartum depression in Southwest Ethiopia: a cross-sectional study. BMC Research Notes, 11(1), 1-7.
Vaezi, A. et al. (2018). The association between social support and postpartum depression in women: a cross sectional study. Women and birth journal of Australian College of Midwives, 32(2), 238-242.