การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาวะทางกายสำหรับเด็กปฐมวัย ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) วิเคราะห์สาเหตุภาวะน้ำหนักเกินและแนวโน้มภาวะน้ำหนักเกินในเด็กปฐมวัย 2) พัฒนาโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาวะทางกายสำหรับเด็กปฐมวัยที่มีภาวะน้ำหนักเกิน 3) ประเมินผลการใช้โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาวะทางกายสำหรับเด็กปฐมวัยที่มีภาวะน้ำหนักเกิน โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ เด็กปฐมวัย อายุ 5 - 6 ปี จำนวน 50 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 25 คน และกลุ่มควบคุม จำนวน 25 คน โดยใช้เกณฑ์น้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูง มีค่ามากกว่า +2S.D ขึ้นไป เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก นำมาสุ่มห้องเรียนด้วยวิธีการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย 1) โปรแกรมส่งเสริมสุขภาวะทางกายสำหรับเด็กปฐมวัยที่มีภาวะน้ำหนักเกิน 2) คู่มือการใช้โปรแกรมส่งเสริมสุขภาวะทางกายสำหรับเด็กปฐมวัยที่มีภาวะน้ำหนักเกิน วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) วิเคราะห์สาเหตุภาวะน้ำหนักเกินในเด็กปฐมวัย จากการที่เด็กไม่มีเวลาออกกําลังกาย 2) โปรแกรมส่งเสริมสุขภาวะทางกายสำหรับเด็กปฐมวัยที่มีภาวะน้ำหนักเกินที่ได้พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย การออกกำลังกาย 5 วัน วันที่ 1 ท่ากายบริหารพื้นฐาน วันที่ 2 ท่ากายบริหารพร้อมอุปกรณ์ วันที่ 3 เต้นประกอบจังหวะเพลงพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง วันที่ 4 เต้นประกอบจังหวะเพลงเต้นกันหน่อย และวันที่ 5 เต้นประกอบจังหวะเพลง ออกกำลังกายรับแสงตะวัน 3) ผลการประเมิน ค่าเฉลี่ยของน้ำหนักตัว หลังการเข้าร่วมโปรแกรม กลุ่มทดลองที่ได้เข้าร่วมโปรแกรม ลดลงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 โดยก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ยน้ำหนักตัว 28.78 กิโลกรัม และหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ยน้ำหนักตัว 26.28 กิโลกรัม
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2564). กรมอนามัยเผยเด็กไทยอ้วนเปิดอาหารชูสุขภาพเสริมออกกำลังกายป้องกัน. เรียกใช้เมื่อ 1 ธันวาคม 2565 จาก https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/news 0633-2/
กรมอนามัยสำนักโภชนาการ. (2565). สำนักโภชนาการกรมอนามัยรายงานประจำ ปี2565 เฝ้าระวังทางโภชนาการ. เรียกใช้เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2565 จาก https://nutrition2.anamai.moph.go.th/th
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
นิรุตติ์ สุขดี และคณะ. (2562). การพัฒนาโปรแกรมการออกกำลังกายโดยใช้ทฤษฎีบูรณาการประสาทความรู้สึกร่วมกับ ภูมิปัญญาไทยเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่สัมพันธ์กับสุขภาพและ ทักษะทางสังคมของเด็กออทิสติก. วารสารครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 47(2), 150-168.
ศณิษา ตันประเสริฐ และ ธัญชนก คําแสน. (2561). ประสิทธิผลของโปรแกรมการควบคุมภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนของเด็ก. วารสารสาธารณสุขศาสตร์, 48(3), 344-355.
ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดลร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2563). แนวทางการดำเนินงาน โรงเรียนส่งเสริมกิจกรรมทางกายในประเทศไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 1). นนทบุรี: บริษัท ภาพพิมพ์ จำกัด.
สาริษฐา สมทรัพย์. (2561). ความรอบรู้ทางสุขภาพในการจัดการภาวะน้ำหนักเกินและภาวะอ้วนในเด็กวัยเรียน. วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, 29 (12), 20-33.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2562). ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี(พ.ศ. 2561-2580).(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). สรุปสาระสำคัญแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสอง พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำนักนายกรัฐมนตรี.
Senol, F. B. (2021). Physical Activity and Preschool Children: Preschool Teachers' Perceptions. Southeast Asia Early Childhood, 10(2), 132-146.
Willumsen, J., & Bull, F. (2020). Development of WHO guidelines on physical activity, sedentary behavior, and sleep for children less than 5 years of age. Journal of physical activity and health, 17(1), 96-100.
WorldHealthOrganiztion. (2000). Obesity: Preventing and managing the global epidemic: Report of a WHO consultation. Retrieved March 17, 2023, from http:// www.books.google.co.th /booksida