การพัฒนาชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่สร้างแรงจูงใจ ในการเรียนออนไลน์สำหรับครูประถมศึกษา

Main Article Content

มนธิรา บุญญวินิจ

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่สร้างแรงจูงใจในการเรียนออนไลน์สำหรับครูประถมศึกษา 2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่สร้างแรงจูงใจในการเรียนออนไลน์สำหรับครูประถมศึกษา ใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูที่ปฏิบัติงานสอนในระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 30 คน โดยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ฯ จำนวน 3 ชุด ได้แก่ 1) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 2) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สังคมศึกษา และภาษาต่างประเทศ และ3) กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา พลศึกษา ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบ แบบวัดความสามารถ และแบบวัดเจตคติ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบประเมินความสอดคล้อง การหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมโดยค่าสัมประสิทธิ์การกระจาย ผลการวิจัยสรุปว่า 1) ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมฯ 1.1) ผลการประเมินคุณภาพชุดกิจกรรม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย (gif.latex?\bar{x} = 4.72, S.D. = 0.45 ) 1.2) ผลคะแนนของครูประถมศึกษาจากการเรียนด้วยชุดกิจกรรมหลังเรียน (gif.latex?\bar{x} = 25.03,           S.D. = 9.69) สูงกว่าก่อนเรียน (gif.latex?\bar{x} = 18.00, S.D. = 6.21) 1.3) ผลคะแนนของแบบวัดความสามารถหลังเรียน    (gif.latex?\bar{x} = 12.27, S.D. = 1.17) สูงกว่าก่อนเรียน (gif.latex?\bar{x} = 8.27, S.D. = 1.58) 1.4) ผลของแบบวัดเจตคติ อยู่ในระดับมาก มีคะแนนเฉลี่ย (gif.latex?\bar{x} = 4.56, S.D. = 0.59) และ2) ผลการศึกษาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรม จากแบบทดสอบ แบบวัดความสามารถ และ แบบวัดเจตคติ ได้ค่าสัมประสิทธิ์การกระจาย มีคุณภาพระดับดี ร้อยละ 8.84, 9.70 และ 9.47 ตามลำดับ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
บุญญวินิจ ม. (2023). การพัฒนาชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่สร้างแรงจูงใจ ในการเรียนออนไลน์สำหรับครูประถมศึกษา. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 7(11), 180–191. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSC/article/view/269295
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. (2563). คู่มือการจัดการเรียนการสอนออนไลน์. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.

เกียรติศักดิ์ รักษาพล และโชคปรีชา โพเขียว. (2563). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง. เรียกใช้เมื่อ 10 พฤศจิกายน 2566 จาก https://publication.npru.ac.th/handle/123456789/1244

เจริญ ภูวิจิตร์. (2564). การจัดการเรียนรู้ทางออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 15(40), 1-15.

ชนันภรณ์ อารีกุล. (2562). การศึกษาทางเลือก: รูปแบบการเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับเจเนอเรชันแอลฟา. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 8(3), 270-283.

ชัชรินทร์ เลิศยศบดินทร์ และคณะ. (2563). สามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทางวิทยากรคำนวณ โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมร่วมกับ การจำลองสถานการณ์ออนไลน์ เพื่อส่งเสริมความนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการเรียนรู้ และสื่อสารมวลชน. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี.

ชัยยงค์ พรมวงศ์ และวาสนา ทวีกุลทรัพย์. (2551). “ชุดการเรียนการสอน” ในประมวลสาระชุด วิชาการ พัฒนาหลักสูตรและสื่อการเรียนการสอน. หน่วยที่ 14 นนทบุรี. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ไทยพับลิก้า. (2564). สำรวจผลกระทบหลังโควิด-19 จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของการศึกษาโลก. เรียกใช้เมื่อ 1 ตุลาคม 2565 จาก https://thaipublica.org/2021/01/exploring-the-effects-of-covid-19- the-turning-point-of-world-education/

นภาพร พงษ์สุวรรณ. (2545). เจตคติของครูต่อการจัดการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง กลุ่มโรงเรียนป่างิ้ว สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

พิจิตรา พิสุทธิ์สกุลรัตน์. (2557). การพัฒนาชุดการสอนสำหรับครูร่วมกับกิจกรรมแบบเรียนปนเล่นวิชาภาษาอังกฤษเรื่องคำศัพท์รอบตัวเราสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนประถมฐานบินกำแพงแสน. ใน สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

พิชิต ฤทธิ์จำรูญ. (2548). หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: เฮ้าส์ ออฟเคอร์ มีสท์.

มนัสดา ลูกอินทร์ และอมรา เขียวรักษา. (2563). ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเรียน วิชาฟิสิกส์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ศึกษา, 3(1), 41-51.

ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2543). เทคนิควิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: สุวีวริยาสาส์น.

ศศิธร พรหมประเสริฐ. (2552). การสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยบูรพา.

สมจิต จันทร์ฉาย. (2557). ตำราประกอบการสอนวิชา 1127102 การออกแบบและพัฒนาการเรียนการสอน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม. นครปฐม: เพชรเกษมพริ้นติ้ง กรุ๊ป.

สมชาย รัตนทองคำ. (2554). การวัดและประเมินผลทางการศึกษา. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 5(1), 137-153.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2558). แนวทางการจัดทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 ที่เน้นสมรรถนะทางสาขาวิชาชีพ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

สุรางค์ โค้วตระกูล. (2559). จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Allport, G. W. (1967). Attitude theory and measurement. New York: John Wiley&Sons.

Nelson, L. W. & Geoge, C. L. (1975). Science Activities for Elementary Children. Iowa: WM.C. Broom Company Publisher .