กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุก

Main Article Content

มนสิช สิทธิสมบูรณ์

บทคัดย่อ

กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุก เป็นการนำเสนอกลยุทธ์การจัดเรียนรู้ในมุมมองใหม่ที่มีองค์ประกอบในเชิงระบบ 3 องค์ประกอบคือ ปัจจัย (Input) กระบวนการ (Process) และผลผลิต (Product) กล่าวคือ เป็นกลยุทธ์ใหม่ของการจัดการเรียนรู้ที่จำเป็นต้องจัดปัจจัยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในการจัดการเรียนการสอน ได้แก่ เอกสาร เครื่องเสียง เครื่องฉาย อากาศ อาหาร โต๊ะ เก้าอี้ ที่นั่ง ความสะอาดห้องเรียน ผ้าม่าน ดอกไม้ ฯลฯ และเน้นกระบวนการ ที่ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ได้แก่ การถาม-ตอบ ส่วนร่วมชวนตอบ การฝึกปฏิบัติ การทดลอง การแบ่งกลุ่มทำงาน การเปิดอภิปราย การนำเสนอหน้าชั้น การถาม-ตอบ การร้องเพลง การแสดง การให้ความเห็น การสะท้อนคิด การวิจารณ์ การทำท่าทาง ฯลฯ เพื่อมุ่งให้ผู้เรียนสามารถบรรลุผลผลิตการเรียนรู้ได้ทั้งด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย โดยมีกลยุทธ์การจัดกิจกรรมและประสบการณ์การเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้อย่างตื่นตัว ทั้งทางด้านสติปัญญาหรือการคิด ด้านสังคม ด้านอารมณ์ ความรู้สึกและจิตใจ และด้านการรับรู้การเคลื่อนไหวร่างกาย หลักการสำคัญของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก คือ การทำให้ผู้เรียนให้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ผู้เรียนได้แสวงหา คัดสรร และสร้างความรู้ด้วยตนเอง โดยครูจะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้สูงสุด และสร้างบรรยายกาศการมีส่วนร่วม ความสำคัญของการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเป็นการสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความร่วมมือกัน และให้ผู้เรียนแสดงออกมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นสำคัญ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สิทธิสมบูรณ์ ม. (2024). กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุก. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 8(1), 164–172. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSC/article/view/270159
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). คู่มือประกอบการอบรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC (Professional Learning Community) “ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ” สู่สถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.

กอบสุข คงมนัส. (2561). “เครื่องมือดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ : วิถีแห่งการศึกษายุคดิจิทัล”. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 20(4), 285-290.

ทิศนา แขมมณี และคณะ. (2563). การจัดการเรียนรู้เชิงรุกฐานสรรถนะเชิงรุก. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

บังอร เสรีรัตน์. (2565). การเรียนการสอนฐานสมรรถนะและการวัดและประเมินผลฐานสมรรถนะ. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.

Bakir, S. (2014). 5th grad students, opinions about active learning environment. Procedia-Social and Behavioral Science, 116(2014), 3553-3558.

Bonwell, et al. (1991). Active Learning: Creating Excitement in the Classroom. Washington, DC: ERIC Clearinghouse on Higher Education, George Washington University.

Dick, W. & Carey, L. (1996). The systematic design of instruction. (4 th ed). New York: Longman.

DuFour, R.et al. . (2006). Learning by Doing. A Handbook for Professional Learning Communities at Work. Bloomington, IN: Solution Tree Press.

Duke,D. L. (1990). Teaching an introduction. New York: Mc Graw-Hill.

Joyce, B. & Shower, B. (1992). The Coaching of Teaching. London: Allyn and Bacon.

Joyce, B. & Weil. M. (2000). Models of Teaching. (6 th ed.). Boston: Allyn and Bacon.

Lewis, C. (2002). Lesson Study: A handbook of Teacher-led instructional change. Phidadelphia, PA: Research for better school.