รูปแบบกิจกรรมบูรณาการภูมิปัญญาศิลปะไทยเพื่อส่งเสริมสันติวัฒนธรรม

Main Article Content

มัณนาน มามะ
อภิชาติ พลประเสริฐ
ดวงกมล ไตรวิจิตรคุณ

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะสภาพสังคมวัฒนธรรมและองค์ประกอบที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง 2) ศึกษาองค์ประกอบหรือรากฐานของงานศิลปะไทย และนำมาใช้จัดกิจกรรมศิลปะเชิงสัมพันธ์ในรูปแบบกิจกรรมบูรณาการภูมิปัญญาศิลปะไทยเพื่อส่งเสริมสันติวัฒนธรรม เป็นกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง 35 คน เป็นผู้เชี่ยวชาญ 7 ด้าน คือ สันติศึกษา ศิลปศึกษา ศิลปินร่วมสมัย ศิลปะไทย การจัดกิจกรรม กิจกรรมประเพณี ผู้นำชุมชน และชุมชนพหุวัฒนธรรมในกรุงเทพฯ ที่มีการบูรณาการภูมิปัญญาศิลปะไทย เป็นการวิจัยและพัฒนา         ใช้เทคนิควิธีวิจัยเชิงคุณภาพ 2 ระยะ ดังนี้ 1. สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญและสังเกตชุมชนต้นแบบและชุมชนที่มีแนวโน้มเป็นอุปสรรคต่อการเกิดสันติวัฒนธรรม โดยมีเครื่องมือวิจัย 1) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก 2) แบบสังเกตข้อมูลและสภาพทั่วไปของชุมชน วิเคราะห์ด้วยการจัดกลุ่มข้อมูลและวิเคราะห์เนื้อหา 2. การพัฒนารูปแบบกิจกรรมบูรณาการภูมิปัญญาศิลปะไทยเพื่อส่งเสริมสันติวัฒนธรรม พบว่า รูปแบบฯ มุ่งเน้นวัตถุประสงค์ 4 ด้าน 1) ความเข้าใจ ไว้วางใจ 2) ความรัก เคารพ 3) ไม่ใช้ความรุนแรง 4) มีส่วนร่วมให้ความร่วมมือ เป็นการนำหลักการภูมิปัญญาศิลปะไทยโดยใช้ทฤษฎีสุนทรียศาสตร์เชิงสัมพันธ์ ซึ่งเป็นประสบการณ์ทางสุนทรียะในศิลปะร่วมสมัยภายใต้องค์ประกอบหรือรากฐานงานศิลปะไทยที่มีจุดร่วมเดียวกัน และองค์ประกอบทฤษฎีกิจกรรม 7 ประการ ซึ่งมี 3 หัวข้อหลัก คือ 1) อาหารท้องถิ่นชุมชน เป็นเมนูอาหารที่มีประวัติความเป็นมาบูรณาการวิถีชีวิตด้วยการลงแขกร่วมกัน 2) ประวัติศาสตร์ชุมชน เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์วิถีชีวิตเชื่อมโยงความสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ใช้สอยต่อยอดได้ 3) จิตสำนึกร่วมชุมชน เกิดจากความสนใจและใช้ประโยชน์ร่วมกัน เพื่อพึ่งพาอาศัยเติมเต็มความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสู่การเกิดสันติวัฒนธรรมในชุมชนที่ยั่งยืน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
มามะ . . ม., พลประเสริฐ อ., & ไตรวิจิตรคุณ ด. (2024). รูปแบบกิจกรรมบูรณาการภูมิปัญญาศิลปะไทยเพื่อส่งเสริมสันติวัฒนธรรม. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 8(2), 204–216. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSC/article/view/271112
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ชัยวัฒน์ สถาอานันท์. (2558). Nonviolence: สันติวิธี เส้นทางสู่สันติภาพ. กรุงเทพมหานคร: คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

มติชนออนไลน์. (2562). ม.1 ขโมยปืนพ่อยิงเพื่อนดับ แค้นโดนแกล้ง-ล้อเป็นตุ๊ด. เรียกใช้เมื่อ 18 ธันวาคม 2562 จาก https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1823199

ศุภการ สิริไพศาล และอดิศร ศักดิ์สูง. (2552). การดําเนินนโยบายสังคมพหุวัฒนธรรมในรัฐเคดาห์และปีนัง ของมาเลเซีย ค.ศ. 1970 - 2008. กรุงเทพมหานคร: สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.

ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ. (2561). eBook เจาะเทรนด์โลก 2018. เรียกใช้เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2562 จาก https://web.tcdc.or.th/th/Publication /Detail

สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. (2559). วัฒนธรรมภาคใต้. ใน สารานุกรมวัฒนธรรม พ.ศ. 2529. กรุงเทพมหานคร: อมรินทร์การพิมพ์.

สำนักข่าวเดลินิวส์. (2561ก). เขตบางคอแหลมส่งหนังสือสั่งมัสยิดห้ามเสียงดัง. เรียกใช้เมื่อ 5 ตุลาคม 2561 จาก https://www.dailynews.co.th/regional/669745

สำนักข่าวเดลินิวส์. (2561ข). เมื่อวัดไทรเสียงระฆังก้อง ดังไปไกลในอินเทอร์เน็ต. เรียกใช้เมื่อ 11 ตุลาคม 2561 จาก https://www.dailynews.co.th/article/670609

Barkhordari, M. et al. (2016). The Importance of Art-Based Curriculum in Peace Education. Review of European Studies, 8(4), 220-231.

Bourriaud, N. (2002). Relational Aesthetics. Printed in lespressesdureel: France.

Cengelci Kose, T. & Gurdogan Bayir, O. (2016). Perception of peace in students’ drawings. Eurasian Journal of Educational Research, 65(2016), 181-198.

Chang, R. (2005). Culture and art education in China Education through Art. International Journal of, 1(3), 225-236.

Fabricio, F. (2013). Peace Profile: Vicent Martínez Guzmán. Peace Review: A Journal of Social Justice, 25(3), 439-446.

Issifu, A. K. (2016). Local Peace Committees in Africa: The Unseen Role in Conflict Resolution and Peacebuilding. The Journal of Pan African Studies, 9(1), 141-158.

Vygotsky, L. S. (1978). Mind in society: The development of higher psychological processes. Massachusetts: Harvard University Press.

Wasson, R. et al. (1990). Teaching Art in the Multicultural Classroom: Six Position Statements. Studies in Art Education, 31(4), 234-246.

Xanthaki, A. et al. (2022). Culture 2030 Goal campaign. Retrieved November 13, 2019, from https://culture2030goal.net/.