วิถีชีวิตการใช้เวลาว่างของบุคลากรโรงเรียนนารีวุฒิ จังหวัดราชบุรี

Main Article Content

กฤติยา ทองเปลว
วิพงษ์ชัย ร้องขันแก้ว

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาวิถีชีวิตการใช้เวลาว่างของบุคลากรโรงเรียนนารีวุฒิ จังหวัดราชบุรี และ 2) ความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคลกับวิถีชีวิตการใช้เวลาว่างของบุคลากรโรงเรียนนารีวุฒิ จังหวัดราชบุรี การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยกลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ บุคลากร โรงเรียนนารีวุฒิ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จำนวน 122 คน เก็บข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถามวิถีชีวิตการใช้เวลาว่างของบุคลากร โรงเรียนนารีวุฒิ จังหวัดราชบุรี ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยมีค่าสัมประสิทธิแอลฟา (Coefficient Alpha) (α= 0.93) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติไคสแควร์ ซึ่งผู้วิจัยได้นำเสนอในรูปแบบตารางประกอบความเรียง โดยผลการวิจัยพบว่า 1) วิถีชีวิตการใช้เวลาว่างของบุคลากรโรงเรียนนารีวุฒิ จังหวัดราชบุรี ที่มีมากที่สุดคือ ลักษณะวิถีชีวิตการใช้เวลาว่างแบบนักคิด มากที่สุด รองลงมาคือลักษณะวิถีชีวิตการใช้เวลาว่าง แบบผู้มีความเชื่อ และลักษณะวิถีชีวิตการใช้เวลาว่าง แบบผู้ประสบความสำเร็จในอาชีพ ตามลำดับ 2) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลซึ่งประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ และตำแหน่งกับวิถีชีวิตการใช้เวลาว่าง แบบนักคิด แบบผู้มีความเชื่อ แบบผู้ประสบความสำเร็จในอาชีพ แบบผู้มีความทะเยอทะยาน แบบผู้ชอบประสบการณ์ใหม่ ๆ และแบบนักลงมือปฏิบัติ ไม่มีความสัมพันธ์กัน ในทางกลับกันในปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศ ในรูปแบบผู้ชอบประสบการณ์ใหม่ๆ และด้านตำแหน่งงาน ในรูปแบบผู้มีความเชื่อ ในด้านเพศและตำแหน่งในรูปแบบดังกล่าวนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ทองเปลว ก., & ร้องขันแก้ว ว. (2024). วิถีชีวิตการใช้เวลาว่างของบุคลากรโรงเรียนนารีวุฒิ จังหวัดราชบุรี. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 8(3), 274–285. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSC/article/view/272137
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมควบคุมโรค. (2019). โรคติดเชื้อไวรัสโคดรน่า (COVID-19). เรียกใช้เมื่อ 10 มกราคม 2567 จาก https://ddc. moph.go.th/viralpneumonia/faq_more.php.

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2563). New Normal ชีวิตวิถีใหม่. เรียกใช้เมื่อ 10 มกราคม 2567 จาก https://dmh.go.th/news/view.asp?id=2288.

ธนิฏฐา ช่วงมณีโชติ. (2554). วิถีชีวิตการใช้เวลาวางของบุคลากรในมหาวิทยาลับเกษตรศาสตร์. ใน วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานันทนาการ. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

วชิรวิทย์ ก้านจักร. (2015). วิถีชีวิตของชาวไทญ้อในเขตตำบลคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, 1(2), 70-80.

วริษา หงส์ทอง. (2559). รูปแบบการเข้าร่วมการใช้เวลาว่างของพนักงานบริษัท โตโยต้า เค.มอเตอร์ ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการกีฬานันทนาการและการท่องเที่ยว. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ศศิธร จำนงรักษ์. (2558). ผลของการเข้าร่วมโปรแกรมแรงจูงใจการใช้เวลาว่างที่มีต่อวิถีชิวิตการใช้เวลาว่างที่ดีของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย. ใน วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานันทนาการ. มหาวิทยาเกษตรศาสตร์.

อดิศัย มัตเดช. (2552). พฤติกรรมการใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมนันทนาการของพนักงาน บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร. ใน วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการนันทนาการ. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

Bammel, G., & Burrus-Bammel, L.L. (1996). Leisure & Human Behavior (3rd ed.). SCHOLE: A Journal of Leisure Studies and Recreation Education, 12(1), 145-146.

Chubb, M. C., & Fuchs, A. F. (1981). The role of the dental nucleus and y-group in the generation of vertical smooth eye movement. Annals of the New York Academy of Sciences, 374(1 Vestibular an), 446–454.

Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing (5th ed.). New York: Harper Collins Publishers.

Kaplan, H. B. (1975). The self-esteem motive and change in self-attitudes. Journal of Nervous and Mental Disease, 161(4), 265-275.

Mowen, J.C. & Minor, M. (1998). Consumer Behavior. (5th ed). Upper Saddle River N.J: Prentice-Hall.

SRI Consulting Business Intelligence. (2008). Infrastructure, Health, Technological innovation. North America: SRI Consulting, National Intelligence Council (NIC).

Veal, A. J. (1993). The concept of lifestyle: a review. Leisure Studies, 12(4), 233-252.