การพัฒนาครูเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวทางสะตีมศึกษาผ่านการละเล่นลูกยางนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษา: โรงเรียนบ้านคลองหวะ (ทวีรัตน์ราษฎร์บำรุง) จังหวัดสงขลา

Main Article Content

ศิริภา จันทร์เกื้อ
มัสยา หลงสมัน
คมกริช จันทร์ชุม
อริสรา บุญรัตน์
อานอบ คันฑะชา

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาความสามารถของครูในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษาผ่านการละเล่นลูกยางนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษา และ 2) เพื่อศึกษาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษาผ่านการละเล่นลูกยางนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษา การวิจัยในครั้งนี้ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 5 คน คือ ครูผู้สอนระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านคลองหวะ (ทวีรัตน์ราษฎร์บำรุง) จังหวัดสงขลา ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาท้องถิ่นโดยมีสถาบันอุดมศึกษาเป็นพี่เลี้ยง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 การจัดการเรียนรู้บูรณาการร่วมในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณิตศาสตร์ ศิลปะ ภาษาไทย และสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินความสามารถในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ และแบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษาผ่านการละเล่นลูกยางนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 เครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ คือ แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) ความสามารถในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะตีมศึกษาผ่านการละเล่นลูกยางนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.27 (gif.latex?\bar{x} = 4.27, S.D = 0.44) และ 2) ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะตีมศึกษา ผ่านการละเล่นลูกยางนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.44 (gif.latex?\bar{x} = 4.44, S.D = 0.49)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
จันทร์เกื้อ ศ., หลงสมัน ม., จันทร์ชุม ค., บุญรัตน์ อ., & คันฑะชา อ. (2024). การพัฒนาครูเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวทางสะตีมศึกษาผ่านการละเล่นลูกยางนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษา: โรงเรียนบ้านคลองหวะ (ทวีรัตน์ราษฎร์บำรุง) จังหวัดสงขลา. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 8(5), 185–196. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSC/article/view/273370
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

บุญชม ศรสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.

ประภัสสร วงษ์ดี และเจริญชัย วงศ์วัฒนกิจ. (2563). การพฒนาความสามารถในการออกแบบการเรียนการสอน ผ่านกระบวนการวิจัย ในชั้นเรียนของนักศึกษาครูช่างอุตสาหกรรม. วารสารศึกษาศาสตร์ มสธ, 13(2), 157-171.

พรหม ผูกดวง และขจรศักดิ์ บัวระพันธ์. (2565). การจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาฐานวิจัยบูรณาการความรู้ในเนื้อหาผนวกวิธีสอนวิชาวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 45(1), 102-114.

พันเพชร เชยแจ้ง และคณะ. (2565). สะตีมศึกษากับการพัฒนาเจตคติทางวิทยาศาสตร์. วารสารเพื่อการปฏิรูปการเรียนรู้, 5(2), 70-80.

วรัญญา มีรอด. (2564). รูปแบบการออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้การประเมินเป็นฐานของครู สังกัดองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น: การใช้ผลการทดสอบระดับชาติ. ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยและประเมินทางการศึกษา. มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ศศิธร อินตุ่น และอรกมล สุวรรณประเทศ. (2565). การศึกษาความสามารถในการออกแบบการเรียนรู้ของนักศึกษาครูระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 16(3), 212-227.

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2562). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 (ฉบับอัพเดท). กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา.

สุพัตรา ขันทอง. (2562). แนวทางการพัฒนาประสิทธิผลการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาลำพูน เขต 2. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สุภัค โอฬาพิริยกุล. (2562). STEAM EDUCATION: นวัตกรรมการศึกษาบูรณาการสู่การจัดการเรียนรู้. วารสารวิจัยและพัฒนาหลักสูตร, 9(1), 1-16.

Cronbach, L. J. (1949). Essentials of psychological testing (4th ed.). New York: Harper & Row.