การพัฒนาการอ่านวิเคราะห์บันเทิงคดีโดยประยุกต์ใช้ระบบของสตานิสลาฟสกี สำหรับนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย

Main Article Content

สรัลชนา กีรตินิจกาล
สันติวัฒน์ จันทร์ใด

บทคัดย่อ

บทความวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บันเทิงคดีโดยประยุกต์ใช้ระบบของสตานิสลาฟสกี และ 2) ศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บันเทิงคดีโดยประยุกต์ใช้ระบบของสตานิสลาฟสกีที่มีต่อความสามารถในการอ่านวิเคราะห์ของนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย ตัวอย่างวิจัย คือ นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสาธิตสังกัดมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 78 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 39 คน และกลุ่มควบคุม จำนวน 39 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบวัดความสามารถในการอ่านวิเคราะห์ของนักเรียนกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ก่อนและหลังการทดลอง และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บันเทิงคดีโดยประยุกต์ใช้ระบบของ สตานิสลาฟสกีสำหรับกลุ่มทดลอง และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติสำหรับกลุ่มควบคุม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ยมัชฌิมเลขคณิต (Μ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเลขคณิตด้วยการทดสอบแบบที (T-Test) ผลการวิจัยพบว่า 1) ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บันเทิงคดีโดยประยุกต์ใช้ระบบของสตานิสลาฟสกี สำหรับนักเรียนประถมศึกษาตอนปลายมี 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1.1) วิเคราะห์โครงเรื่องตามองค์ประกอบ 1.2) วิเคราะห์ภูมิหลังและแรงผลักดันของตัวละคร 1.3) สร้างจินตนาการเกี่ยวกับฉากและวิเคราะห์อิทธิพลของฉาก 1.4) วิเคราะห์แก่นเรื่อง และ 1.5) เชื่อมโยงประสบการณ์เข้ากับเนื้อเรื่อง และ 2) นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการอ่านวิเคราะห์หลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนกลุ่มทดลอง มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการอ่านวิเคราะห์หลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
กีรตินิจกาล ส., & จันทร์ใด ส. (2024). การพัฒนาการอ่านวิเคราะห์บันเทิงคดีโดยประยุกต์ใช้ระบบของสตานิสลาฟสกี สำหรับนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 8(5), 64–74. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSC/article/view/273427
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.

กฤษณะ พันธุ์เพ็ง. (2560). Stanislavski and I: เมื่อเราเข้าใจกัน. เรียกใช้เมื่อ 11 มีนาคม 2566 จาก https://medium.com/@g.punpeng/stanislavski-and-i-เมื่อเราเข้าใจกัน-c561bc4c0729.

กุหลาบ มัลลิกะมาส. (2525). ความรู้ทั่วไปทางวรรณคดีไทย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

บรรเทา กิตติศักดิ์. (2542). ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ยุวพาส์ ชัยศิลป์วัฒนา. (2544). ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวรรณคดี. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2560). พจนานุกรมศัพท์วรรณกรรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพมหานคร: ราชบัณฑิตยสถาน.

วัชรี บูรณสิงห์ และนิรมล ศตวุฒิ. (2542). การอ่านเชิงวิเคราะห์วิจารณ์ด้านหลักสูตรและการสอน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

ศุภณัฐ พานา. (2560). การพัฒนารูปแบบกาเรียนการสอนประวัติศาสตร์ตามแนวคิดกระบวนการสืบสอบ แสวงหาความรู้เป็นกลุ่มร่วมกับแนวคิด Magic If เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์และการรับรู้ความรู้สึกทางประวัติศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์

มหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2565). รูปแบบข้อสอบ และจำนวนข้อสอบในแต่ละรายวิชา (Test Blueprint) วิชาภาษาไทย. เรียกใช้เมื่อ 20 พฤษภาคม 2566 จาก https://www.niets.or.th/uploads/editor/files/O-NET/61_65_Thai_P6_web.pdf

สมพร จารุนัฏ. (2538). คู่มือการเขียนเรื่องบันเทิงคดีและสารคดีสำหรับเด็ก. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

อัมพร สุขเกษม. (2542). การอ่านหนังสือ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

Adler, M. J. & Doren, C. V. (1972). How To Read A Book. United States of America: Touchstone.

Allen, D. (1999). Stanislavski for beginners. United States of America: Writers and Readers: Inc.

Hapgood, E. R. (1964). An Actor Prepares. New York: Routledge.

Kelly, E. (1973). The Magic If: Stanislavski for Children. Maryland: National Educational Press.

Powell, M. (2010). The Acting Bible. London: Quintet Publishing.