กลไกการขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยวัยที่สามขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการขับเคลื่อนตามแนวทางมหาวิทยาลัยวัยที่สาม 2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยวัยที่สาม และ 3) นำเสนอกลไกการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยวัยที่สามขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากโรงเรียนผู้สูงอายุภายใต้สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พื้นที่จังหวัดปทุมธานี จำนวน 7 แห่ง ใช้วิธีการวิจัยรูปแบบการวิจัยและพัฒนาใน 4 ขั้นตอน คือ 1) การวิจัยเอกสาร การศึกษาดูงาน และการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 7 คน 2) ใช้แบบสอบถามเพื่อกำหนดรูปแบบกิจกรรมฝึกอบรมจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 104 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ 3) ทดลองดำเนินงานมหาวิทยาลัยวัยที่สามในรูปแบบการจัดกิจกรรมฝึกอบรมกับโรงเรียนผู้สูงอายุทั้ง 7 แห่ง และ 4) นำเสนอกลไกการขับเคลื่อนตามแนวทางมหาวิทยาลัยวัยที่สามโดยการสนทนากลุ่ม จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 11 คน ผลการวิจัยพบว่า 1) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขับเคลื่อนหน่วยงานสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวัยที่สามโดยการทำความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ โดยมีความก้าวหน้าเป็นลำดับ 2) ปัจจัยด้านนโยบายหรือยุทธศาสตร์องค์การและปัจจัยด้านทรัพยากรทางการบริหารส่งผลต่อการขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวัยที่สาม โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 3) กลไกการขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวัยที่สามขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย การมีผู้นำที่มีความรู้ มีจิตสาธารณะ มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ผู้สูงอายุได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว ชุมชนมีส่วนร่วม และการมีเครือข่ายจากองค์กรภายนอก และควรรับสมัครสมาชิกที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปี ขึ้นไป และสร้างกลไกการความพร้อมรับต่อสถานการณ์พลิกผัน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมกิจการผู้สูงอายุ. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2566). โรงเรียนผู้สูงอายุในประเทศไทย. เรียกใช้เมื่อ 8 มีนาคม 2566 จาก https://www.dop.go.th/th/know/5/44
กระทรวงศึกษาธิการ. (2566). แผนยุทธศาสตร์สำคัญ. เรียกใช้เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2567 จาก https://www.bic.moe.go.th
จิตตรา มาคะผล. (2564). มหาวิทยาลัยวัยที่สามในออสเตรเลีย. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร, 18(2), 8-20.
ติน ปรัชญพฤทธิ์. (2552). ทฤษฎีองค์การ. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
ปิ่นวดี ศรีสุพรรณ และคณะ. (2560). โรงเรียนผู้สูงอายุกับการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นอีสาน โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. วารสารสำนักบัณฑิตอาสาสมัคร, 14(1), 134-162.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2566). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2565. กรุงเทพมหานคร: บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน).
วิชุลดา มาตันบุญ. (2565). การพัฒนาการดำเนินงานโรงเรียนผู้สูงอายุในภาคเหนือตอนบน. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 18(2), 107-119.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2564). สภาพการจัดการศึกษาผู้สูงอายุในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี. (2566). ข้อมูลพื้นฐาน สถจ. เรียกใช้เมื่อ 10 มีนาคม 2566 จาก https://pathumlocal.go.th/public/
อาชัญญา รัตนอุบล. (2562). ข้อเสนอการพัฒนาการดำเนินงานส่งเสริมศักยภาพผู้สูงอายุ. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, 11(1), 26-46.
อาทิตย์ บริหาร. (2565). การจัดสวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุภายใต้การเมืองท้องถิ่น. วารสารสหวิทยาการวิจัยและวิชาการ, 2(3), 231-244.
Chikomborero, B. et al. (2021). Moving from the Margins: Towards an Inclusive Urban Representation of Older People in Zimbabwe’s Policy Discourse. Societies Journal, 11(7), 17-18.
Cohen, J. M. & Uphoff, N. T. (1980). Rural Development Participation: Concept and Measure for Project Design Implementation and Evaluation: Rural Development Committee Center for international Studies. New York: Cornell University Press.
Peters, T. J. & Waterman, R. H. Jr. (2004). Search of Excellence. (2nd ed). London: Profile Book.
U3A Toowoomba. (2018). U3A TOOWOOMBA New Interests New Friends. Newsletter Visiting on. Retrieved March 8, 2024, from https://u3atoowoomba.au/