การประเมินความเต็มใจจ่ายของผู้โดยสารสำหรับการพัฒนาบริการดิจิทัลในสนามบิน: การสนับสนุนแนวทางนโยบายสนามบินดิจิทัล

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้วัตถุประสงค์เพื่อ ความเต็มใจที่จะจ่าย (WTP) ของผู้โดยสารสำหรับบริการดิจิทัลในสนามบิน เช่น การติดตามสัมภาระแบบเรียลไทม์และการจัดส่งสัมภาระแบบอัตโนมัติ พร้อมทั้งวิเคราะห์ความคุ้มค่าของบริการเหล่านี้และความสัมพันธ์ระหว่างระบบจัดส่งสัมภาระผ่านแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT กับระบบของสายการบิน การศึกษานี้มุ่งเน้นผลกระทบของนวัตกรรมดังกล่าวต่อความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพ และความ
พึงพอใจของผู้โดยสารการวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยผู้โดยสารและนักเดินทางที่มีแนวโน้มจะใช้บริการเสริมที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) ในการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างจำนวน 442 คน การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการผ่านแบบสอบถาม และทำการวิเคราะห์ด้วยแบบจำลองลอจิกสองขั้น (Double Bounded Logit Model) วิเคราะห์ข้อมูลตัวแปรตามได้แก่ ความเต็มใจที่จะจ่าย (WTP) โดยใช้วิธีการเสนอราคาสองช่วง (Double-bid Price Offering Method) ผลการวิจัยพบว่า ผู้โดยสารมีความเต็มใจที่จะจ่ายเริ่มต้นที่ 500 บาท สำหรับบริการ เช่น การติดตามสัมภาระแบบเรียลไทม์ โดยพบความแตกต่างทั้งในรูปแบบการเพิ่มขึ้นและลดลงของความเต็มใจที่จะจ่าย ความสัมพันธ์ระหว่างแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT กับระบบสายการบินแสดงให้เห็นถึงผลเชิงบวกต่อความสะดวกสบายและประสิทธิภาพ ผู้โดยสารให้คุณค่ากับนวัตกรรมดิจิทัลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของสนามบิน การพัฒนาแอปพลิเคชันที่รวมคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น การติดตามสัมภาระแบบเรียลไทม์และการจัดส่งสัมภาระแบบอัตโนมัติ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและทัศนคติเชิงบวกต่อการใช้งานในระยะยาว ผลลัพธ์เหล่านี้มอบข้อมูลเชิงลึกที่มีความสำคัญต่อการกำหนดนโยบายเทคโนโลยีดิจิทัลในสนามบิน และการพัฒนาบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสาร