แนวทางการพัฒนาการจัดการการท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย กรณีศึกษา ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับศักยภาพในการจัดการการท่องเที่ยว 2) อิทธิพลของการจัดการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย ที่มีต่อศักยภาพในการจัดการการท่องเที่ยว และ 3) เสนอแนวทางการพัฒนาการจัดการการท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในเขตพื้นที่ ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนในเขตพื้นที่ ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยสูตรคำนวณตารางสำเร็จของ Krejcie & Morgan ได้จำนวน 357 คน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ เจ้าของธุรกิจและภาคเอกชน ผู้นำชุมชนและประชาชน จำนวน 8 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามและการสัมภาษณ์เชิงลึก สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ด้วยค่าสัมประสิทธิ์การทำนาย ด้วยวิธีการ Enter ผลการวิจัยพบว่า ศักยภาพในการจัดการการท่องเที่ยว มี 8 ด้าน โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก อิทธิพลของการจัดการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายที่มีต่อศักยภาพในการจัดการการท่องเที่ยว มีอิทธิพลทางบวก ทำให้ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนด้านการจัดโครงสร้างความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ มีอิทธิพลทางลบ ทำให้ด้านการท่องเที่ยวลดลง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และแนวทางการพัฒนาการจัดการการท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย มี 4 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านเงื่อนไขการก่อความร่วมมือ 2) ด้านการจัดโครงสร้างความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ 3) ด้านบทบาทผู้นำการสร้างความร่วมมือ และ 4) ด้านศักยภาพการท่องเที่ยว
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2567). รายงาน 3 หมอรู้จักคุณ. เรียกใช้เมื่อ 10 สิงหาคม 2567 จาก https://3doctor.hss.moph.go.th/main/
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2565). สถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวโลก. TAT REVIEW, 8(2), 40-46.
คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ. (2566). แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติฉบับที่ 3. เรียกใช้เมื่อ 18 สิงหาคม 2567 จาก https://drive.google.com/file/d/1eWJvZe1dHLKlABXB6PDJZXKVav4f-9hQ/view
นันทวัฒน์ ธานินทร์เดชานันท์ และคณะ. (2566). รูปแบบความร่วมมือในการให้บริการสาธารณะของกรมชลประทานในโครงการบริหารจัดการน้ำ. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 7(10), 238-249.
บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา. (2548). อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว. (พิมพ์ครั้งที่ 1). นนทบุรี: บริษัท เพรส แอนด์ ดีไซน์ จำกัด.
พัชราภรณ์ จันทรฆาฎ และคณะ. (2566). การศึกษาทัศนคติและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.
พิมพ์พรรณ อำพันธ์ทอง และคณะ. (2566). ศักยภาพของผู้สูงอายุในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 7(8), 35-44.
พิมพิกา นวนจา และคณะ. (2563). ภาคีเครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวของหมู่บ้านแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่. วารสารรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์, 11(2), 29-54.
วสันต์ เหลืองประภัสร์. (2557). โครงการ “การสังเคราะห์ตัวแบบเชิงทฤษฎีและการบริหารจากผลการดำเนิน โครงการวิจัยเพื่อพัฒนากลไกความรวมมือเพื่อแก้ปัญหารร่วมกัน ของคนในพื้นที่”. ใน รายงานการวิจัย. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
Cronbach, L. J. (1971). Essentials of psychological testing. New York: Harper & Row.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1977). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Rovinelli, R. J. & Hambleton, R. K. (1977). On the use of content specialists in the assessment of criterion-referenced test item validity. Tijdschrift voor Onderwijsresearch, 2(2), 49-60.