การพัฒนารูปแบบพุทธวิธีการป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ของผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากลไกการป้องกันการกระทำผิดซ้ำ 2) บูรณาการหลักพุทธธรรมในการฟื้นฟูผู้ต้องขัง และ 3) ถอดบทเรียนจากกระบวนการบูรณาการดังกล่าว ใช้ระเบียบวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research: PAR) ผ่านการสัมภาษณ์ สนทนากลุ่ม และกิจกรรมเชิงปฏิบัติร่วมกับผู้ต้องขัง ครอบครัว ชุมชน และเจ้าหน้าที่ ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนากลไกการป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ต้องอาศัยการวิเคราะห์บริบทอย่างรอบด้าน ปัญหาการทำผิดซ้ำเชื่อมโยงกับความเปราะบางทางจิตใจ เศรษฐกิจ ครอบครัว และการขาดพลังภายใน ส่งผลให้ผู้ต้องขังขาดความพร้อมกลับคืนสู่สังคมถือเป็นกระบวนการฟื้นฟูมนุษย์ที่สร้างโอกาสให้เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน กลไกที่พัฒนาขึ้นจึงเป็นรูปแบบองค์รวม ครอบคลุม 5 มิติ ได้แก่ จิตใจ ทักษะชีวิต อาชีพ ครอบครัว และชุมชน การบูรณาการหลักพุทธธรรมกับกระบวนการฟื้นฟูผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงจากภายในจิตใจของผู้ต้องขังอย่างแท้จริง โดยมีหลักพุทธธรรมเป็นแกนกลาง เช่น อริยสัจ 4 ศีล 5 พรหมวิหาร 4 อิทธิบาท 4 และสัปปุริสธรรม 7 เพื่อเสริมสร้างสำนึก รู้คิด และพลังใจการดำเนินงานผ่านกิจกรรมเวิร์กช็อป การฝึกสมาธิ สติปัฏฐาน วงสนทนา และการเชื่อมโยงครอบครัว - ชุมชน ทำให้ผู้ต้องขังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง รู้เท่าทันตนเอง ลดแรงขับจากอารมณ์และความเคยชิน พร้อมกลับคืนสู่สังคมอย่างมีศักดิ์ศรีการถอดบทเรียนได้นำไปสู่การสังเคราะห์ “โมเดลสัจจปัญญา” นวัตกรรมทางสังคมเชิงพุทธที่บูรณาการสัจจะและปัญญาเป็นกลไกการฟื้นฟูผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน ขยายผลสู่ครอบครัวและชุมชน ผู้ต้องขังเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายใน มีสำนึก รู้ผิด รู้คิด รู้ทำ ลดการกระทำผิดซ้ำ และสร้างโอกาสใหม่ในการเริ่มต้นชีวิต
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมราชทัณฑ์. (2566). รายงานสถิติผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศ. เรียกใช้เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2566 จาก http://www.correct.go.th/rt103pdf/report_result.php?date=2019-11-01&report=
กรวรรณ คำกรเกตุ. (2559). แนวทางการพัฒนาโปรแกรมการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยของผู้ต้องขังในเรือนจำโครงสร้างเบา. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขานโยบายสังคม. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
เดชา จินตกสิการ. (2560). ปัจจัยที่มีผลต่อการกระทำผิดซ้ำของผู้ต้องขังคดียาเสพติดในเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม. ใน วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์. มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม.
ธนพล สราญจิตร์. (2558). ปัญหาความยากจนในสังคมไทย. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 5(2), 12-21.
นคพัฒน์ สินเย็น. (2564). การกระทำความผิดซ้ำของผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วารสารวิชาการ การจัดการภาครัฐและเอกชน, 3(1), 46-56.
นิมิต ทัพวนานต์. (2561). การพัฒนาแนวทางการป้องกันการกระทำผิดซ้ำของผู้ต้องขังไร้ญาติ. ใน รายงานการวิจัย. วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร.
พรวิไล อุ้ยดำรงธรรม. (2564). การเตรียมความพร้อมผู้ต้องขังก่อนปล่อยสู่สังคมในประเทศไทย. ใน วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายมหาชน. มหาวิทยาลัยมหิดล.
พระเจริญพงษ์ ธมฺมทีโป. (2567). คู่มือกระบวนการเรียนรู้ชุมชนโดยใช้วิจัยเป็นฐาน. ใน ดุษฎีบัณฑิตพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ศิริวรรณ กมลสุขสถิต. (2563). แนวทางในการป้องกันและแก้ไขการกระทำผิดซ้ำของเด็กและเยาวชนในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดโดยอาศัยปัจจัยที่เป็นตัวทำนายทางด้านอาชญาวิทยา. วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, 7(1), 1-19.
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ. (2566). ข้อมูลสถิติคดีสำนักงาตำรวจแห่งชาติ. เรียกใช้เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2566 จาก https://policeudomsuk.com/สถิติฐานความผิดคดีอาญา
สุพิชฌาย์ ศิริวัฒนา สีตะสิทธิ์. (2558). “แนวทางที่เหมาะสมในการลงโทษและแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดซ้ำ”. ใน ดุษฎีนิพนธ์นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขานิติศาสตร์. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.