การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา

ผู้แต่ง

  • ปิยธิดา ศรีธร ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ ประเทศไทย
  • พรทิพย์ อ้นเกษม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ ประเทศไทย
  • ลินดา นาคโปย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ ประเทศไทย

คำสำคัญ:

ผู้บริหารสถานศึกษา, การบริหารความขัดแย้ง, การทำงานเป็นทีมของครู

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ระดับการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหาร (2) ระดับการทำงานเป็นทีมงานครูในสถานศึกษา (3) ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารกับการทำงานเป็นทีมของครูในสถานศึกษา และ (4) การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารที่ส่งผลต่อทำงานเป็นทีมของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา ปีการศึกษา 2566 จำนวน 302 คน โดยวิธีการสุ่มหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม แบบตามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือค่าความถูกต้องเชิงเนื้อหาที่มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับนิยามศัพท์ตั้งแต่ .60 ขึ้นไป และได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .97 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า 1) การศึกษาการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษา โดยภาพรวมและรายด้าน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการร่วมมือ ด้านการประนีประนอม ด้านการยอมให้ ด้านการหลีกเลี่ยง และด้านการเอาชนะ ตามลำดับ 2) การศึกษาการทำงานเป็นทีมของครูในสถานศึกษา โดยภาพรวมและรายด้าน มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ด้านความไว้วางใจ ด้านกระบวนการทำงาน ด้านการสื่อสาร และด้านวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ตามลำดับ 3) การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารกับการทำงานเป็นทีมของครูในสถานศึกษา มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับมากที่สุด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 4) การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมของครูในสถานศึกษา พบว่า ด้านการหลีกเลี่ยง ด้านการร่วมมือ ด้านการยอมให้ และด้านการประนีประนอม ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมของครูอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

เอกสารอ้างอิง

กมลนัทธ์ ศรีจ้อย. (2560). การบริหารจัดการความขัดแย้งของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดอุทัยธานี. (ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญญบุรี).

จุฑามาศ ช่วยเพชร. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการความขัดแย้งกับการทำงานเป็นทีมของครูในกลุ่มโรงเรียนบางละมุง 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชลบุรี เขต 3. (การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา).

ชัยเสฎฐ์ พรหมศรี. (2561). ภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหารองค์การ: แนวคิด ทฤษฎีและกรณีศึกษา. กรุงเทพฯ: ปัญญาชน.

ณัฐพัชร์ ภูจอม. (2560). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทักษะการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารกับการสร้างทีมงานของครูในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3. (ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา).

ธนพงษ์ จอมพระ. (2564). การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปรปะถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1. (ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์).

นิติพล ภูตะโชติ. (2562). พฤติกรรมองค์การ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เนตร์พัณณา ยาวิราช. (2560). การจัดการสมัยใหม่ Modern Management (พิมพ์ครั้งที่ 11). กรุงเทพฯ: ทริปเปิ้ล.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

ปิ่นทอง ศรีสวัสดิ์. (2560). การทำงานเป็นทีมของครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17. (การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา).

วรพจน์ สิงหราช. (2565). แนวทางการจัดการความขัดแย้งในองค์การที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา (รายงานวิจัย). กรุงเทพฯ: สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.

ศรสวรรค์ สุขสนาน (2561). การทำงานเป็นทีมตามความคิดเห็นของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16. (การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยทักษิณ).

สัมนา รธนิธย์. (2560). หลัก ทฤษฎีและปฏิบัติการบริหารการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: ข้าวฟ่าง.

สำนักงานข้าราชการพลเรือน. (2559). การสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ: สำนักงานข้าราชการพลเรือน

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา. (2566). แผนปฏิบัติราชการ. ฉะเชิงเทรา: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2561). มาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2561. กรุงเทพฯ: 21 เซ็นจูรี่.

สิทธิศักดิ์ เพ็ชรยิ้ม. (2563). การทำงานเป็นทีมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2. (ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร).

สุวรรณา พงษ์ผ่องพูล และ ปริญญา มีสุข. (2560). การศึกษาการทำงานเป็นทีมที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการของสถาน ศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประทุมธานี เขต 2. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 11(1), 162-173.

อนุสรา สิงห์โต. (2561). การบริหารจัดการความขัดแย้งของผู้บริหารที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18. (การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา).

อริศษรา อุ่มสิน. (2560) การศึกษาการทำงานเป็นทีมของครูผู้สอนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17. (ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี).

อุทุมพร จันทร์สิงห์ (2561). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษากับการทำงานเป็นทีมในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2. (ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี).

ฮาสาน๊ะ ดอเลาะ. (2565). สมรรถนะกับการจัดการความขัดแย้งของผู้บริหารโรงเรียนสังกัด สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดปัตตานี. (ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา).

Bowin, R. B. & Harvey, D. (1998). Human resource management: A experiential approach. New Jersey: Prentice-Hall.

Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing. (5th ed.). New York: Harper Collins.

Johnson, D. W. & Johnson, E.P. (2000). Joining Together: Group Theory and Group Skills. Boston: Allyn and Bacon.

Krejcie, R.V. & Morgan. D.V. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Likert, R. (1976). The Method of Constructing and Attitude Scale. New York: Wiley & Son.

Meuse, K. D. (2009). Driving Team Effectiveness. Alanta: The Korn ferry.

O'Neill, T. A., & McLarnon, M. J. (2018). Optimizing team conflict dynamics for high performance teamwork. Human Resource Management Review, 28(4), 378-394.

Parker, G. M. (1990). Team Player and Teamwork: The Competitive Business Strategy. San Francisco, C.A: Joessy–Bass.

Rahim, M. Afzalur. (2010). A strategy for Managing Conflict in Complex Organizations. Human Relation, 38(1), 153-154.

Romig, D. A. (1996). Breakthrough Teamwork: Outstanding Result Using Structured. Chicago: Irwin.

Thomas & Kilmann. (2002). Conflict mode Instrument. Houston: Gulf.

Woodcock, M. (1989). Team Development Manual. Brookfield Vermont: Gower

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-29

รูปแบบการอ้างอิง

ศรีธร ป., อ้นเกษม พ., & นาคโปย ล. (2025). การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา. วารสารสังคมศาสตร์ปัญญาพัฒน์, 7(2), 291–302. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSSP/article/view/279637

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย