แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำแบบร่วมรู้สึกของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2

ผู้แต่ง

  • พิษณุ กิจติกาล นักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาคุณภาพการศึกษา คณะสหวิทยาการ มหาลัยขอนแก่น ประเทศไทย
  • ปาริชาต ทุมนันท์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการบริหารและพัฒนาคุณภาพการศึกษา คณะสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประเทศไทย

คำสำคัญ:

ความร่วมรู้สึก, ภาวะผู้นำแบบร่วมรู้สึก, ผู้บริหารสถานศึกษา

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของภาวะผู้นําแบบร่วมรู้สึกของผู้บริหารสถานศึกษา และ (2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นําแบบภาวะผู้นำแบบร่วมรู้สึกของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 2 การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธีแบบแผนเชิงอธิบาย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 269 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบสอบถามแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำแบบร่วมรู้สึกของผู้บริหารสถานศึกษา 2) แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความต้องการจำเป็น (PNIModified) ผลการวิจัยพบว่าโดยภาพรวม1) สภาพปัจจุบันของภาวะผู้นำแบบร่วมรู้สึกอยู่ในระดับมาก โดยจุดแข็งคือการเสริมสร้างแรงจูงใจ และจุดอ่อนคือการตระหนักรู้ในตนเอง ส่วนภาพรวมสภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด โดยจุดแข็งคือการแสดงวิสัยทัศน์ร่วมและจุดอ่อนคือการเข้าใจอารมณ์ผู้อื่นและการเสริมสร้างแรงจูงใจ ในด้านของความต้องการจำเป็นพบว่าการเข้าใจอารมณ์ผู้อื่นมีความต้องการสูงสุด รองลงมาคือการตระหนักรู้ในตนเอง การสื่อสารอย่างร่วมรู้สึก การแสดงวิสัยทัศน์ร่วม และการเสริมสร้างแรงจูงใจ ตามลำดับ 2) แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำแบบร่วมรู้สึกของผู้บริหารสถานศึกษาปรากฏผล 5 ด้าน ได้แก่ (1) การเข้าใจอารมณ์ผู้อื่น โดยการสร้างสภาพแวดล้อมการสื่อสารที่เปิดกว้าง จัดกิจกรรมเสริมสร้างมิติสัมพันธ์ และเสริมแรงเชิงบวก (2) การตระหนักรู้ในตนเอง โดยการประเมินตนเอง ฝึกอบรมภาวะผู้นำและรับฟังข้อมูลจากบุคลากร (3) การสื่อสารอย่างร่วมรู้สึก เน้นการสร้างบรรยากาศการสนทนาที่เปิดกว้าง การทำงานร่วมกันและรับฟังอย่างตั้งใจ (4) การแสดงวิสัยทัศน์ร่วม สร้างและเผยแพร่วิสัยทัศน์ ประเมินและวางแผนพัฒนาตามมาตรฐานและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง (5) การเสริมสร้างแรงจูงใจ โดยการส่งเสริมความรู้สึกมีส่วนร่วม มอบหมายงานที่เหมาะสม และสนับสนุนการพัฒนาทักษะ

เอกสารอ้างอิง

จิตติ หงส์เวียงจันทร์. (2567). ภาวะผู้นำแบบเห็นอกเห็นใจของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 2. วารสาร มจร กาญจนปริทรรศน์, 4(2), 91-92.

จุมพล บุญมี. (2566). ภาวะผู้นำแบบเห็นอกเห็นใจของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา. วารสารบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 20(3), 110-111.

ปัทฐมิกา ปิ่นเงิน. (2565). ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่นกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้นำชุมชน. (รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์).

พัชรี ศรีสวัสดิ์. (2566). รูปแบบการพัฒนาวัฒนธรรมร่วมรู้สึกของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น. (ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยขอนแก่น).

ภัทรวุฒิ วัฒนศัพท์. (2563). การพัฒนาตัวบ่งชี้ภาวะผู้นําแบบร่วมรู้สึกสำหรับผู้บริหารโรงเรียนเอกชน. (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยขอนแก่น).

ภัทราวดี มากมี. (2566). ความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกผู้อื่นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย: การวิเคราะห์กลุ่มพหุ. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 8(3), 91-94.

ศุกัญญา อินศิริ. (2564). แนวทางการส่งเสริมการร่วมรู้สึกของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปราจีนบุรี นครนายก. (ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี).

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2. (2566). แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2566-2570. สืบค้นจาก https://www.smart.nongkhai2.go.th/?page_id=266.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2564). นโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564-2565. สืบค้นจาก https://moe360.blog/2021/06/30/education-management-policy/.

สุวิมล ติรกานันท์. (2551). การสร้างเครื่องมือวัดตัวแปรในการวิจัยทางสังคมศาสตร์: แนวทางสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจําเป็น. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Chinthamu, N. (2022). The Importance of Empathetic Leadership for High Performance Industry and Sacred Work Place. International Journal of Advance and Applied Research, 10(2), 138-150.

Goleman, Boyatzis & McKee. (2013). Primal Leadership: Unleashing the Power of Emotional Intelligence. Boston, MA: Harvard Business Press.

Hougaard & Carter. (2018). The Mind of the Leader: How to Lead Yourself, Your People, and Your Organization for Extraordinary Results. Boston, MA: Harvard Business Press.

Jiang, M., & Lu, S. (2020). To Empathize, or Not Empathize in Educational Leadership. Journal of Organizational and Educational Leadership, 5(1), 3.

Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Lambert, S., & Taylor, M. G. (2022). The need for empathy in school leadership. Retrieved from https://chesterrep.openrepository.com/bitstream/handle/10034/626765/The%20need%20for%20empathy%20in%20school%20leadership%20.pdf?sequence=3&isAllowed=y.

Wibowo, A., & Paramita, W. (2022). Resilience and turnover intention: The role of mindful leadership, empathetic leadership, and self-regulation. Journal of Leadership & Organizational Studies, 29(3), 325-341.

Zaki, J. (2024). How to sustain your empathy in difficult times. Harvard Business Review, 102(1-2), 63-69.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-29

รูปแบบการอ้างอิง

กิจติกาล พ., & ทุมนันท์ ป. (2025). แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำแบบร่วมรู้สึกของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2. วารสารสังคมศาสตร์ปัญญาพัฒน์, 7(2), 373–384. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JSSP/article/view/283963

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย