พระอัจฉริยภาพด้านการวิจารณ์นาฏกรรมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ผู้แต่ง

  • อภิรักษ์ ชัยปัญหา คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

คำสำคัญ:

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, การวิจารณ์, นาฏกรรมไทย, นาฏยศิลป์

บทคัดย่อ

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาดังนี้ 1) เพื่อศึกษาพัฒนาการการวิจารณ์นาฏกรรมในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาพระอัจฉริยภาพด้านการวิจารณ์นาฏกรรมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพิจารณาการวิจารณ์นาฏกรรมทั้งที่เป็นบทวิจารณ์และการสร้างสรรค์นาฏกรรมในฐานะการวิจารณ์ ภายใต้กรอบแนวคิดประวัติศาสตร์นิยมใหม่ ผลการศึกษาพบว่า พัฒนาการการวิจารณ์นาฏกรรมในประเทศไทยในสมัยรัตนโกสินทร์พบว่า เดิมการวิจารณ์ของไทยปรากฏในการสร้างสรรค์นาฏกรรม เพื่อวิพากษ์วิจารณ์บุคคลและปรากฏการณ์ทางสังคมหรือผลงานสร้างสรรค์ของผู้อื่น มักใช้ลีลายั่วล้อ ต่อมาการปฏิรูปการศึกษาของไทยทำให้คนไทยรู้จักการวิจารณ์ในวัฒนธรรมลายลักษณ์โดยได้รับอิทธิพลจากตะวันตกทำให้เกิดการเขียนบทวิจารณ์นาฏกรรมขึ้น เริ่มจากการสื่อระหว่างบุคคลจนพัฒนาไปสู่การเขียนบทวิจารณ์ในสื่อสาธารณะ ในระยะต้นปรากฏในสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลักและค่อยๆ เสื่อมความนิยมลง ปัจจุบันการเขียนบทวิจารณ์ปรากฏในสื่อใหม่มากขึ้น นอกจากนั้นลักษณะการวิจารณ์ยังปรากฏในการมอบรางวัล การประกวดแข่งขัน การกำหนดกฎเกณฑ์ในหลักสูตรและการประเมินคุณวุฒิของบุคลากรในวงการศึกษา
ในด้านพระอัจริยภาพด้านการวิจารณ์นาฏกรรมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปรากฏ 2 สถานะ ได้แก่ 1) บทบาทผู้เขียนบทวิจารณ์ 2) บทบาทผู้สร้างสรรค์ผลงานในฐานะการวิจารณ์ พระราชวิจารณ์ของพระองค์อาจเป็นต้นเค้าของการเขียนบทวิจารณ์ในสื่อสาธารณะ
มีส่วนช่วยให้เกิดความรู้ความเข้าใจนาฏกรรมทั้งของไทยและของเทศแก่พสกนิกร พระองค์ทรงเป็นผู้หนึ่งที่ริเริ่มการสร้างสรรค์ผลงานแนวใหม่ในลักษณะผสมผสานระหว่างนาฏกรรมแนวเดิมและนาฏกรรมแบบตะวันตก ทรงใช้ผลงานของพระองค์ในการวิพากษ์บุคคล เหตุการณ์สำคัญ
มักใช้ลีลายั่วล้อเสียดสีเพื่อสร้างความขบขันและลดความรุนแรงในการวิจารณ์ นับเป็นความพยายามของชนชั้นนำสยามในยุคนั้นที่ประสงค์จะสร้างมาตรฐานใหม่แก่วงการนาฏกรรมไทยที่เน้นการนำเสนอสาระควบคู่กับความบันเทิง บทบาทการวิจารณ์นาฏกรรม ของพระองค์นับเป็นช่วง
หัวเลี้ยวหัวต่อที่มีความสำคัญยิ่งต่อทิศทางการสร้างและการเสพนาฏกรรมไทยในระยะต่อมา

Downloads

เผยแพร่แล้ว

31-12-2019