ปัญหาจากสิ่งแวดล้อมต่างวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น ในอุตสาหกรรมการผลิตของญี่ปุ่นในประเทศไทย และผลกระทบต่อ MONOZUKURI
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้กล่าวเกี่ยวกับการวิจัยควมแตกต่างทางวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่นกับผลกระทบต่อ MONOZUKURI อันมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีบริษัทจำนวนมากที่มาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องวัฒนธรรมต่างของไทย-ญี่ปุ่น ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีต งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอปัญหาที่เกิดจากการทำงานภายใต้สิ่งแวดล้อมซึ่งมีวัฒนธรรมแตกต่างกันของไทย-ญี่ปุ่น ผลกระทบต่อกิจกรรมที่ก่อให้เกิด MONOZUKURI แนวคิดเรื่องการบริหารงานเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมและสิ่งที่ควรดำเนินการเพื่อให้ MONOZUKURI ประสบความสำเร็จในการทำงานภายใต้สิ่งแวดล้อมซึ่งมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอยู่ร่วม โดยทำการศึกษาเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาที่เกิดความแตกต่างทางวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น ส่งผลไปยัง MONOZUKURI โดยตรงในเรื่องคุณภาพของสินค้าและ/หรือบริการ และต่อความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งสามารถจัดการและลดความแตกต่างทางวัฒนธรรมในองค์กรได้โดยนโยบายจากผู้บริหารระดับสูง การให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่พนักงาน การฝึกอบรม การประเมินผลและการควบคุม การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและการทำให้คนตระหนักถึงวัฒนธรรมที่ต่างกันของอีกฝ่าย จึงเป็นประเด็นที่จำเป็นในอันที่จะก่อให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อกันระหว่างคนไทยและคนญี่ปุ่น ซึ่งปัจจัยสู่ความสำเร็จในการลดปัญหา คือ นโยบายการพัฒนาบุคคลากรเรื่องการบริหารงานต่างวัฒนธรรม (Cross Culture) ที่กำหนดจากบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้ปัญหานี้ถูกแก้ไขอย่างต่อเนื่อง
Article Details
นโยบายการรับบทความ
กองบรรณาธิการวารสารสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น มีความยินดีรับบทความจากอาจารย์ นักศึกษา และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาบริหารธุรกิจและภาษา ที่เขียนเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ซึ่งผลงานวิชาการที่ส่งมาขอตีพิมพ์ต้องไม่เคยเผยแพร่ในสิ่งพิมพ์อื่นใดมาก่อน และต้องไม่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวารสารอื่นที่นำส่ง ดังนั้นผู้สนใจที่จะร่วมเผยแพร่ผลงานและความรู้ที่ศึกษามาสามารถนำส่งบทความได้ที่กองบรรณาธิการเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองบทความพิจารณาจัดพิมพ์ในวารสารต่อไป ทั้งนี้บทความที่สามารถเผยแพร่ได้ประกอบด้วยบทความวิจัย ผู้สนใจสามารถศึกษาและจัดเตรียมบทความจากคำแนะนำสำหรับผู้เขียนบทความ
การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งบทความโดยตรง บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรองคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิและได้รับความเห็นชอบจาก กองบรรณาธิการ
ข้อความที่ปรากฏภายในบทความของแต่ละบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเล่มนี้ เป็น ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และคณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในสถาบัน แต่อย่างใด ความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความแต่ละบทความเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะต้องรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์มิให้นำเนื้อหา ทัศนะ หรือข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความในวารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตจากผู้นิพนธ์อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
- กองบรรณาธิการ วารสารสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
- ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
เลขที่ 1771/1 สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ซอยพัฒนาการ 37-39 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250 ติดต่อกับคุณพิมพ์รต พิพัฒนกุล (02) 763-2752 , คุณอาริสา จิระเวชถาวร (02) 763-2600 Ext. 2704 Fax. (02) 763-2754 หรือ E-mail: JBAL@tni.ac.th
เอกสารอ้างอิง
M. Arakawa, Japanese Style MONOZUKURI “Art of Japanese Style Manufacturing” (Nihon no MONOZUKURI “Nihon Keijutsu no Seiso”), Lecture Notes in the Training Program on Industrial Management for Thailand #2 for the Enhancement of Industrial Human Resources with MONOZUKURI Management Capability, Osaka, Japan: Feb 2007, p. 43.
Y. Koga, “Don’t Wait until It Happens! Follow the Way to Workplace Safety!! (Okottekara dewa Osoi! Iroha de Tadoru Genba Anzen no Michi!!),” Factory Management (Kojo Kanri), Vol. 55, p. 98-99, Oct. 2009.
H. Sasaki, Power of MONOZUKURI Structure (MONOZUKURI SOshiki Noryoku), Biken, Japan: 2008.
T. Tajima, Isuzu Manufacturing Management (Isuzu Seizo Keiei), Lecture Notes in Japanese Management, Bangkok, Thailand: Oct. 2008, p. 145.
T. Fujimoto, Strategic Theory of MONOZUKURI Integrated Model (Sougou Kata MONOZUKURI Senryokuron), in MONOZUKURI Management (MONOZUKURI Keieigaku). Kobunsha, Japan: 2008, 3th printed. 21-32.
F. Nagai, “The Role of Culture Influences in Japanese Communication: A Literature Review on Social and Situational Factors and Japanese Indirectmess,”” Intercultural Communication Studies, Kanda University of International Studies, Japan: 2002.
G. Hofstede, Culture's Consequences : Comparing Values, Behaviors, Institutions, and Organizations Across Nations, 2nd ed. Sage, the United States of America: 2001.
F. Graetz, M. Rimmer, A. Lawrence and A. Smith, Managing Organizational Change, 2nd ed., John Wiley & Sons, Australia: 2006.
M. Hitt, C. Miller and A. Colella, Organizational Behavior; A Strategic Approach, Von Hoffmann,New York: 2006.
K. Nakae, “Cultural Change: A Comparative Study of the Change Efforts of Douglas MacArthur and Carlos Ghosn in Japan,” M.B.A. Thesis, Sloan School of Management, Massachusetts Institute of Technology, U.S.A., 2005.
J. Black, “Toward a Comprehensive Model of International Adjustment: An Integration of Multiple Theoretical Perspectives,” Academy of Management Review, vol. 16, no. 2, pp. 219-317, 1991.
L. Woolgar, “University Industry Links Personnel and Training in Japan: A Review of Survey Results,” Discussion Paper No. 49, Second Theory Oriented Research Group, National Institute of Science and Technology, Ministry of Education, Culture, Sports, Science and Technology, Oct, 2008.
J. Ortega, “Job Rotation as a Learning Mechanism,” Management Science, vol. 47, no. 10, pp. 1361-1370, Oct. 2001.
T. Peters, In Search of Excellence, Warner Books Edition, the United States of America: Harper & Row, 1982.
T. Ogawa, “Human Resource Education and Development (Jinzai no Ikusei Kaihatsu),” Info BIZ Thailand, vol. 152, pp. 7, Aug. 2010.
Y. Zhu, “Responding to the Challenges of Globalization: Human Resource Development in Japan,” Journal of World Business, vol. 39, iss. 4, pp. 337-345, Nov. 2004.