การพัฒนาชุดกิจกรรมทางกายเพื่อเพิ่มช่วงความสนใจของเด็กที่มีภาวะออทิซึม
Main Article Content
บทคัดย่อ
ออทิซึม (Autism) เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากความบกพร่องทางพัฒนาการ ส่งผลต่อพฤติกรรม การสื่อสารและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เด็กที่มีภาวะออทิซึมมักมีข้อจำกัดในด้านทักษะต่าง ๆ รวมถึงมีปัญหาเกี่ยวกับช่วงความสนใจไม่สามารถจดจ่ออยู่กับกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งได้เป็นระยะเวลานาน การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมทางกายเพื่อเพิ่มช่วงความสนใจของเด็กที่มีภาวะออทิซึม และ 2) เพื่อเปรียบเทียบช่วงความสนใจของเด็กที่มีภาวะออทิซึม ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมทางกาย กลุ่มตัวอย่างคือเด็กที่มีภาวะออทิซึม จำนวน 5 คน อายุระหว่าง 3–6 ปี ซึ่งได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ โดยคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมทางกายเพื่อเพิ่มช่วงความสนใจ 2) แบบประเมิน SNAP-IV และ 3) แบบประเมินช่วงความสนใจสำหรับครูและผู้ปกครอง รวมถึงการจับเวลาในการทำกิจกรรม การทดลองดำเนินการเป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 5 วัน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานโดยใช้การทดสอบสมมติฐานด้วย Wilcoxon Signed-Rank Test งานวิจัยนี้ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เลขที่ HE663177
ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดกิจกรรมทางกายที่พัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของการวิจัยโดยได้รับการประเมินความเหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญอยู่ในระดับมากที่สุด แสดงถึงความน่าเชื่อถือและความเหมาะสมในการนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย 2) เด็กที่มีภาวะออทิซึมมีช่วงความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 หลังจากการใช้ชุดกิจกรรมทางกายโดยคะแนนช่วงความสนใจหลังการใช้ชุดกิจกรรมอยู่ที่ 708 คะแนน (𝑥̅ = 4.72, S.D. = 0.15) ซึ่งสูงกว่าคะแนนก่อนใช้ชุดกิจกรรมที่อยู่ที่ 204 คะแนน (𝑥̅ = 1.36, S.D. = 0.15)
Downloads
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมสามัญศึกษา. (2544). การศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ. กรุงเทพฯ:กระทรวงศึกษาธิการ.
กัณฐากรณ์ พานเงิน. (2559). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความสามารถในการใช้ชีวิตแบบพอเพียงอย่างมีวิจารณญาณเรื่องชุมชนริมน้ำจันทบูร
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตี
พิมพ์]. มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
กิ่งแก้ว ปาจรีย์. (2553). คู่มือการพัฒนาเด็กออทิสติกแบบองค์รวม (เทคนิค DIR/ฟลอร์ไทม์). กรุงเทพฯ: พิมพ์สี.
เกษม นครเขตต์. (2554). ความหมายและความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างของพลศึกษากีฬาวิทยาศาสตร์ การกีฬาและการออกกำลังกาย. วารสารสุขศึกษาพลศึกษา
และสันทนาการ, 1(2), 39–48.
ชวนันท์ ชาญศิลป์. (2561). ออทิซึมสเปกตรัม. เชียงใหม่: ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ชลธิชา สุดารักษ์. (2555). การลดพฤติกรรมซ้ำ ๆ ของเด็กออทิสติกโดยการออกกำลังกายแบบมี โครงสร้างทางสายตาโดยวิธี TEACCH [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่
ไม่มีการตีพิมพ์].มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.
ดารณี อุทัยรัตนกิจ. (2552). การจัดการศึกษาสำหรับเด็กออทิสติก. http://www.158.108.70.5/special/t_p2_01.html
บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์. (2560) ผลการศึกษาวิจัยผลของการส่งเสริมการเลี้ยงลูกผ่านกิจกรรม กิน กอด เล่น เล่านิทานทั้งนิทานทั่วไปและนิทานท้องถิ่นในศูนย์
พัฒนาเด็กเล็ก อําเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์. https://url.in.th/EIwQR
พีรยา มั่นเขตวิทย์. (2553). การบำบัดรักษาทางกิจกรรมบำบัดสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องของการรับรู้ และความรู้ ความเข้าใจ. เชียงใหม่: ดาราวรรณการพิมพ์.
ภัทติกร ยศชูเกียรติ. (2558). ผลของการใช้ม้าช่วยบำบัดต่อเวลาปฏิกิริยาตอบสนองและช่วงความสนใจ ของเยาวชนกลุ่ม ออทิสติกสเปคตรัม [วิทยานิพนธ์ปริญญา
โทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
วรวิทย์ นิเทศศิลป์. (2551). สื่อและนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
วรรณวิไล เม็กทอง. (2561). การจัดกิจกรรมทางกายโดยใช้สื่อวัสดุธรรมชาติพัฒนา 4 ด้านของเด็กปฐมวัย โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. เชียงใหม่:
มหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่.
สมัย ศิริทองถาวร, ภิญโญ อิสรพงศ์, เพ็ญกาญจน์ กาญจนรัตน์, วรรณกมล สอนสิงห์, กชพงศ์ สารการ, สุรีรักษ์ พิลา, พัชนี พัฒนกิจโกศล, และนุจรี คำด้วง. (2560).
คู่มือการคัดกรองและปรับพฤติกรรมเด็กที่มีอาการสมาธิสั้นสำหรับผู้ปกครอง. สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์, กรมสุขภาพจิต.
สุธีรา คุปวานิชพงษ์. (2563). กลุ่มอาการออทิซึม. https://www.synphaet.co.th
อาภรณ์ ดวงรัตน์. (2561). ผลการใช้โปรแกรมการฝึกสติเพื่อพัฒนาความตั้งใจจดจ่อในเด็กสมาธิสั้น [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัย
บูรพา.
อุบลวรรณา ภวกานันท์. (2555). จิตวิทยาการรู้ คิด และปัญญา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
โอม สุขสมยศ. (2560). การพัฒนาช่วงความสนใจและสมาธิของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้กิจกรรมการเล่น. กรุงเทพฯ: คณะแพทยศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
American Occupational Therapy Association. (2002). Occupational therapy practice framework: Domain and process. American Journal
of Occupational Therapy, 56(6), 609–639.
Cattanach, A. (1995). Drama and play therapy with young children. The Arts in Psychotherapy, 22(3), 223–228.
Centers for Disease Control and Prevention. (2019). Physical activity facts.
https://www.cdc.gov/healthyschools/physicalactivity/facts.htm
Desimone, R., & Duncan, J. (1995). Neural mechanisms of selective visual attention. Annual Review of Neuroscience, 18, 193–222.
Schiera, G., Proia, P., & Di Liegro, C. M. (2019). Physical activity and neuroplasticity in aging. European Journal of Translational Myology,
(3), 8290.