การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน โดยใช้รูปแบบ SSCS เสริมด้วยเทคนิคบาร์โมเดล ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Main Article Content

ภัคจิรา นาผล
บุษวรรษ์ แสนปลื้ม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน เรื่อง เศษส่วน ด้วยรูปแบบ SSCS เสริมด้วยเทคนิคบาร์โมเดล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ที่จัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ SSCS เสริมด้วยเทคนิคบาร์โมเดล    ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3. เพื่อศึกษาความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่จัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ SSCS เสริมด้วยเทคนิคบาร์โมเดล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มเป้าหมายของการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลหนองหานวิทยายน อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567  จำนวน 24  คน โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน จำนวน 12 แผน  2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ คือ แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครู แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน แบบสัมภาษณ์ผู้เรียนในท้ายวงจรปฏิบัติการ และแบบทดสอบท้ายวงจรปฏิบัติการ  3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลการวิจัย คือ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การหาค่าเฉลี่ยร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน


            ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่ได้รับการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน โดยใช้รูปแบบ SSCS เสริมด้วยเทคนิคบาร์โมเดล มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 20.46 คิดเป็นร้อยละ 68.19 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 26.21 คิดเป็นร้อยละ 87.36 และนักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ได้รับการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน โดยใช้รูปแบบ SSCS เสริมด้วยเทคนิคบาร์โมเดล คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 17.41 คิดเป็นร้อยละ 87.08 แสดงว่านักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนไม่ น้อยกว่าร้อยละ 75 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
นาผล ภ. ., & แสนปลื้ม บ. (2025). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน โดยใช้รูปแบบ SSCS เสริมด้วยเทคนิคบาร์โมเดล ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 13(1), 26–38. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/UDRUAJ/article/view/283639
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กลุ่มบริหารงานวิชาการโรงเรียนอนุบาลหนองหานวิทยายน. (2565). รายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนปีการศึกษา 2565 โรงเรียนอนุบาลหนองหานวิทยายน.

อุดรธานี: โรงเรียนอนุบาลหนองหานวิทยายน.

จีราวะดี เกษี. (2560). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ SSCS เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา

คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 [วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

อภิณห์พร มานิ่ม. (2557). การใช้รูปแบบเอสเอสซีเอส เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่

[วิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ไม่มีการตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

อิมรอน ขวัญคาวิน (2559, 23 มิถุนายน). การพัฒนาชุดการเรียนรู้ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 โดยใช้เทคนิค KWDL ร่วมกับ

การวาดรูปบาร์โมเดล [เอกสารนำเสนอ]. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 7 , สงขลา, ประเทศไทย.

Greeno, James G. (1978). Natures of Problem-solving Abilities. Hillsdale.

Kemmis and McTaggart (1998). The action research planner. Geelong. Deakin university.

National Council of Teachers of Mathematics [NCTM]. (1989). Curriculum and evaluation standards for school mathematics. National

Council of Teachers of Mathematics.

National Council of Teachers of Mathematics [NCTM]. (2000). Principles and standards for school mathematics. National Council of

Teachers of Mathematics.

Pizzini, E.L., & Abell, S.K.. (1989). A rationale for and the development of a problem solving. Science Education, 73(5), 523-534.