การส่งเสริมการมีวินัยในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียน สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
คำสำคัญ:
การส่งเสริมการมีวินัย, นักเรียนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาและแนวทางการส่งเสริมการมีวินัยในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มผู้บริหารสถานศึกษากลุ่มตัวแทนครูผู้สอน กลุ่มคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานและกลุ่มผู้ปกครองของนักเรียน จำนวนทั้งสิ้น 113 คน วิธีการศึกษา คือการศึกษาข้อมูลปฐมภูมิ ได้แก่ ข้อมูลจากแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
- กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นต่อการเสริมสร้างการมีวินัยในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอน้ำพอง โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ 1) ด้านสภาพแวดล้อมของโรงเรียนพบสาเหตุที่ทำให้นักเรียนขาดความมีวินัยในตนเอง คือ นักเรียนขาดจิตสำนึกในการช่วยเหลือกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียน และครูผู้สอน มีพฤติกรรมการแต่งกายและจรรยาบรรณวิชาชีพครูในการปฏิบัติกับนักเรียนไม่เหมาะสม 2) ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคมพบสาเหตุที่ทำให้นักเรียนขาดความมีวินัยในตนเอง คือชุมชนและสังคมไม่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมที่ชุมชนและสังคมจัดขึ้นในโอกาสต่าง ๆ และ 3) ด้านการอบรมเลี้ยงดู พบสาเหตุที่ทำให้นักเรียนขาดความมีวินัยในตนเอง คือ การอบรมเลี้ยงดูที่เข้มงวดและปล่อยปละละเลยนักเรียนของผู้ปกครอง
2. แนวทางในการส่งเสริมการมีวินัยในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอน้ำพอง ดังนี้ 1) ด้านสภาพแวดล้อมของโรงเรียน โดยทางโรงเรียนควรส่งเสริมให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน ทั้งกิจกรรมนอกหลักสูตรและกิจกรรมในหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักเรียนรู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง 2) ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคม ควรมีการร่วมกันวางแผนจากหลาย ๆ ฝ่าย เช่น คณะครูในโรงเรียน คณะกรรมการสภานักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการชุมชน โดยเฉพาะในเรื่องของการเข้าร่วมกิจกรรมที่ชุมชนและสังคมจัดขึ้นในโอกาสต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอและ 3) ด้านการอบรมเลี้ยงดู ผู้ปกครองควรให้ความสนใจเอาใจใส่บุตรหลานของตนให้มากขึ้น เปิดใจยอมรับความคิดเห็นของบุตรหลาน ให้กำลังใจและสนับสนุนการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ตามใจมากเกินไป ไม่เข้มงวดเกินไป เข้าใจและให้เวลากับบุตรหลานให้มากขึ้น
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น ไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของบรรณาธิการ