การจัดทำแนวเขตพื้นที่โบราณสถาน บริเวณตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา
คำสำคัญ:
การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน, แนวเขตโบราณสถาน, ปรางค์พลสงครามบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณรอบโบราณสถานปรางค์พลสงคราม ตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา และเพื่อจัดทำแผนที่แนวเขตพื้นที่โบราณสถาน บริเวณปรางค์พลสงคราม ตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา โดยใช้ข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม Landsat 7 ETM+ และ Landsat 8 OLI/TIRS เพื่อจำแนกรูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินด้วยวิธีการจำแนกแบบกำกับดูแล (Supervise Classification) วิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้องทางด้านประวัติศาสตร์โบราณคดี จากการศึกษา พบว่า การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณรอบโบราณสถานปรางค์พลสงคราม ตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา (ระหว่างปี พ.ศ. 2540 - 2558) พบว่า มีพื้นที่การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินทั้งสิ้น 49.56 ตร.กม. คิดเป็นร้อยละ 73.84 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ที่มีขนาดลดมากที่สุด คือ พื้นที่ป่าไม้ สำหรับพื้นที่ที่มีขนาดเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ พื้นที่เกษตรกรรม และยังพบการขยายตัวของพื้นที่เมืองรอบเขตพื้นที่ปรางค์พลสงครามมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 18 ปี ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมีการบุกรุกเข้าไปสร้างอาคารหรือบ้านเรือนโดยรอบเขตโบราณสถาน มีการสร้างอาคารบ้านเรือนประชิดกับเขตโบราณสถาน ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการกำหนดเขตโบราณสถานที่ไม่ชัดเจนแน่นอน ประชาชนในพื้นที่บางส่วนไม่รู้ว่าโบราณสถานที่จะกันเป็นพื้นที่กันชนโบราณสถานกับพื้นที่ของเอกชนมีระยะที่แน่นอนเท่าไหร่ ส่งผลให้การขยายตัวของเมือง ซึ่งส่วนหนึ่งไม่เป็นไปตามแนวทางแนวปฏิบัติของกรมศิลปากร ตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ดังนั้น ข้อมูลผลจากการศึกษาครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลเชิงพื้นที่สำหรับสนับสนุนการตัดสินใจ เพื่อจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่โบราณสถานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ด้านการวางแผนบริหารพื้นที่โบราณสถานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น ไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของบรรณาธิการ