การยิงประตูและปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาการยิงประตูฟุตบอลของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกีฬาสังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ผู้แต่ง

  • พุฒิพงศ์ นากา Sisaket Sports School

คำสำคัญ:

การยิงประตู, ปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาการยิงประตูฟุตบอล

บทคัดย่อ

               บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพการณ์การยิงประตูฟุตบอล 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์การยิงประตูฟุตบอลกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการยิงประตูฟุตบอล  3) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการยิงประตูฟุตบอล  4) เพื่อพัฒนารูปแบบการยิงประตูฟุตบอลของนักกีฬาฟุตบอล โรงเรียนกีฬาสังกัดมหาวิทยาลัย การกีฬาแห่งชาติกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

              ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง (Population  and  Sample) ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และครูผู้สอนกีฬาฟุตบอล โรงเรียนกีฬาในสังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ จำนวน 185 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่  1) แบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบสำรวจรายการ (Checklist) ประกอบด้วย อายุ เพศ วุฒิการศึกษา ตำแหน่งปัจจุบัน ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ประสบการณ์ด้านการสอน 2) แบบสอบถามการยิงประตูฟุตบอลของนักเรียนช  3) แบบสอบถามปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาการยิงประตูฟุตบอลของนักเรียน

              ผลการศึกษาพบว่า

              1. การยิงประตูฟุตบอลของนักกีฬาฟุตบอล พบว่ากลุ่มตัวอย่างจำนวน 185 คน มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการยิงประตูและปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาการยิงประตูของนักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยรวม (Mean = 7.27, SD.72) และด้านการยิงประตูฟุตบอล มีค่าเฉลี่ยสูงเป็นอันดับหนึ่ง อยู่ในระดับมากที่สุด (Mean = 7.30, SD.73) และด้านปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาการยิงประตูฟุตบอลอยู่ในระดับมากที่สุด (Mean = 7.28, SD.75)

              2. ความสัมพันธ์การยิงประตูฟุตบอลกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการยิงประตูฟุตบอลของนักกีฬาฟุตบอล พบว่าผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ตามวิธีของ Pearson Product Moment Correlation ของตัวแปรการยิงประตูฟุตบอล ปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาการยิงประตูฟุตบอลของนักเรียน มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.01 โดยมีค่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรการยิงประตูฟุตบอลมีความสัมพันธ์กับตัวแปรปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาการยิงประตูฟุตบอล ที่ค่า r .809

              3. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยิงประตูฟุตบอลของนักกีฬาฟุตบอล พบว่าการวิเคราะห์องค์ประกอบภายในการยิงประตูฟุตบอล แบ่งเป็น 7 องค์ประกอบ องค์ประกอบการยิงประตูด้วยข้างเท้าด้านใน การยิงประตูด้วยหลังเท้า การยิงประตูด้วยข้างเท้าด้านนอก การยิงประตูด้วยปลายเท้า การยิงประตูด้วยลูกโด่ง การยิงประตูด้วยลูกซิพและการยิงประตูด้วยศีรษะ โดยทั้ง 7 องค์ประกอบ มีค่าความสัมพันธ์ระหว่าง .884 ถึง .914 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .01

             4. การพัฒนารูปแบบการยิงประตูฟุตบอลของนักกีฬาฟุตบอล โรงเรียนกีฬาสังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าระดับความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาการยิงประตูฟุตบอลของนักเรียน รายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยรวม (Mean =7.23, SD.80)

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กรมวิชาการ. (2545). การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภา.

ชาติชาย โหรากุล. (2554). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเล่นกีฬาฟุตบอลขั้นพื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาพลศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

ไพโรจน์ บัวสาย. (2551). รายงานการพัฒนาทักษะกีฬาฟุตซอลโดยใช้สื่อประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2. โรงเรียนบ้านอังกัญเสกแอ (ประดิษฐ์ราษฎร์สามัคคี) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1.

อภิสิทธิ์ วงศ์สุทธิ์. (2559). ผลการฝึกทักษะการส่งลูกฟุตบอลด้วยข้างเท้าด้านในและหลังเท้าที่มีผลต่อความแม่นยำในการส่งลูกฟุตบอล. สาขาวิชาพลศึกษา คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.

อภินันท์ ภูผาดาว. (2552). การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่องการเล่นฟุตซอลกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. โรงเรียนหนองสอพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่กาฬสินธุ์ เขต 1.

อุทัย สงวนพงศ์. (2533). ฟุตบอล. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญทัศน.

อุทัย สงวนพงศ์. (2542). ฟุตบอล. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญทัศน์.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-12-24

รูปแบบการอ้างอิง

นากา พ. . (2021). การยิงประตูและปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาการยิงประตูฟุตบอลของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกีฬาสังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. วารสารวิชาการ มจร บุรีรัมย์, 6(2), 76–87. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/ambj/article/view/247747

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research Articles