Administration of Student Care and Support System according to Brahma Vihara 4 of School Under the Secondary Educational Service Area Office Nakhon Si Thammarat
Keywords:
Administration, Student Support System, Brahma Viharn 4Abstract
The purposes the student were 1) to study the implementation of the student care and support system management, 2) to compare the implementation of student care and support system management, 3) to explore the guidelines for the management of student care and support student support system according to the Principle of Brahmavihara 4 the schools under the Secondary Education Service Area Office Nakhon Si Thammarat. The study was conducted with school administrators and teachers, involved in the student care and support system from 60 schools total 300 people. The research instrument used was a questionnaire. The statistics used were percentage, average, and standard deviation, and comparison was conducted by testing hypothesis by t-test and one-way ANOVA analysis.
The research results finds that:
- The average management of the student support system according of the schools under the Secondary Educational Service Area Office, Nakhon Si Thammarat, overall, was very high. When each aspect was considered, it was found that the average of student promotion and development was highest, followed by the aspect of knowing students individually with students screening. Learner forwarding section has minimum average
- To compare the management of the student system according to the of the schools under the Secondary Educational Service Area Office, Nakhon Si Thammarat. When they were classified by status and attendance, there was a statistically significant difference at a .05 level when they were classified by work experience and school size, there was no difference.
3. The guideline for the management of the student system according to the principle of the Brahmavihàra of the schools under the Secondary Educational Service Area Office, Nakhon Si Thammarat. The most important aspect was the screening of students employing the principle of fairness, caretaking to help students, to utilize information in promoting and developing of students to be competent in various areas.
References
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2556). คู่มือครูระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ช่วงชั้นที่ 3-4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกิจการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
จันจิรา ไชยรัตน์ และ รุ่งรัชดาพร เวหะชาติ. (2561). การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของผู้บริหาร สถานศึกษาตามความคิดเห็นของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยทักษิณ.
นริศรา จูแย้ม. (2555). การศึกษาการดําเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามความคิดเห็นของ ผู้บริหารและครูผู้สอนในโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน จังหวัดระยอง. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี.
ประนอม แก้วสวัสดิ์. (2556). เรื่องสภาพและปัญหาการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 18. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี.
มุกดา อนุกานนท์. (2555). การศึกษาพฤติกรรมตามหลักพรหมวิหาร 4 ของผู้บริหารการศึกษาตามการ รับรู้ของครูผู้สอนโรงเรียนมัธยมศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17. วิทยานิพนธ์ปริญญาหลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยบูรพา.
รัฐสยาม วงศ์จันทะ. (2559). การศึกษาการดำเนินงานตามเกณฑ์มาตรฐานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2547). การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาสำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2022 Academic MCU Buriram Journal
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น ไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของบรรณาธิการ