แนวทางการประยุกต์หลักสัมมาอาชีวะในการบริหารจัดการ งานสรรพสามิตในจังหวัดนครราชสีมา

บทคัดย่อ

         การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาในการประกอบอาชีพของสรรพสามิตในจังหวัดนครราชสีมา 2) ศึกษาการประยุกต์หลักสัมมาอาชีวะในการประกอบอาชีพสรรพสามิตในจังหวัดนครราชสีมา และ 3) นำเสนอแนวทางการประยุกต์หลักสัมมาอาชีวะในการประกอบอาชีพสรรพสามิตในจังหวัดนครราชสีมา โดยได้ลงพื้นที่ในการสัมภาษณ์ และจัดสนทนากลุ่ม จำนวน 48 รูป/คน ในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อำเภอพิมาย อำเภอโนนแดง และอำเภอบัวใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา
          ผลการวิจัยพบว่า
          1. การบริหารจัดการงานของสรรพสามิตในจังหวัดนครราชสีมา มีปัญหาด้านการจัดการ ด้านการวางแผนงาน บุคลากรหรือเจ้าหน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ด้านการจัดองค์กร ข้อบังคับต่าง ๆ ในองค์กร จะทำให้เกิดการขาดการยืดหยุ่น ด้านการอำนวยการ การฝ่าฝืน ด้านงบประมาณ ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง เงินเดือน หรืองบประมาณด้านอื่น ๆ ด้านงานบุคลากร บางคนมีความรับผิดชอบต่องานน้อย และไม่มีความกระตือรือร้นในการทำงาน การทำหน้าที่ยังไม่ต่อเนื่อง
          2. การประยุกต์หลักสัมมาอาชีวะในการประกอบอาชีพของสรรพสามิตในจังหวัดนครราชสีมา โดยมุ่งคุณภาพ ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการพัฒนางานและทีมงาน ยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงตรง เป็นการทำงานเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย ข้อบังคับ และกรอบนโยบาย โดยโปร่งใส เปิดเผย การทำงาน การบริการงาน เพื่อให้ประชาชนจะได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้โดยสะดวก ตรวจสอบได้ เป็นหลักประกันอย่างเที่ยงธรรม ยึดมั่นระบบความเสมอภาคและความเป็นธรรม
          3. แนวทางการประยุกต์หลักสัมมาอาชีวะด้านบุคลากรในการบริหารงานในการประกอบอาชีพของสรรพสามิตจังหวัดนครราชสีมา เช่น การบริหารงาน คือ หาบุคลากรที่มีความซื่อสัตย์สุจริตและรับผิดชอบต่อหน้าที่ การดำเนินงาน คือ การยึดมั่นและทำในสิ่งที่ถูกต้องในการรับผิดชอบการปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การพัฒนางาน คือ มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงานจัดกิจกรรมส่งเสริมในการพัฒนาบุคลากรความรู้ในการปฏิบัติงาน และ การพัฒนาบุคคล คือ มีความซื่อสัตย์สุจริต และรับผิดชอบต่องาน