การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา ED 2071 วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ Active Learning

ผู้แต่ง

  • เตือนใจ ผางคำ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์

คำสำคัญ:

กิจกรรมการเรียนรู้, วรรณกรรม, เด็กปฐมวัย

บทคัดย่อ

          การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา ED 2071 วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ active learning 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยชั้นปี ที่ 3 ก่อนเรียนและหลังการเรียนรายวิชา ED 2071 วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย 3) ประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยชั้นปี ที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา ED 2071 วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย เป็นการวิจัยเชิงทดลอง แบบแผนการวิจัย คือ แบบทดลองกลุ่มเดียวสอบก่อนและหลัง (The One Group Pretest –Posttest Design) ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ 1) มคอ.3 รายวิชา ED 2071 วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย 2) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา ED 2071วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย 3) แบบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา ED 2071วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
          ผลการวิจัยพบว่า
          1. ผลการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา ED 2071 วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย ได้รูปแบบการเรียนรู้ TAPSCA แนวคิดที่เป็นองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้ คือ 1) แนวคิดจิตตปัญญาศึกษา 2) แนวคิดการเรียนรู้แบบเชิงรุก 3) แนวคิดการเรียนรู้โดยใช้แผนผังความคิด 4) แนวคิดการสะท้อนการเรียนรู้ โดยมีกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ 1) จุดประกายความสนใจ (Twinkle) 2) เห็นคุณค่า (Appreciate) 3) ลงมือปฏิบัติ (Practice) 4) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Share) 5) สรุปความคิด (Conclusion) 6) สะท้อนการเรียนรู้ (After action Reflection)
          2. เปรียบเทียบผลหลังการเรียนรายวิชา ED 2071 วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย นักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
          3. นักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนรู้ในรายวิชา ED 2071 วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย หลังการทดลอง มีผลการประเมินโดยรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มาก (gif.latex?\fn_cm&space;\bar{x} = 4.15) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ อยู่ในระดับมาก (gif.latex?\fn_cm&space;\bar{x}  = 4.49) รองลงมา คือ ด้านบรรยากาศในการเรียน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( gif.latex?\fn_cm&space;\bar{x} = 4.41) ส่วนค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านสื่อและแหล่งเรียนรู้ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( gif.latex?\fn_cm&space;\bar{x} = 3.38) ส่วนด้านอื่น ๆ มีค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกันและมีความสัมพันธ์กันตามลำดับ

เอกสารอ้างอิง

ไชยยศ เรื่องสุวรรณ. (2553). เทคโนโลยีการศึกษา ทฤษฎีและการวิจัย. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.

ณัฏฐวุฒิ ทรัพย์อุปถัมภ์. (2553). การจัดการเรียนรู้แบบใฝ่รู้ (Active Learning) ที่มีผลต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจในการเรียนรายวิชาภูมิปัญญาเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต (0021311). มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี. รายงานวิจัย. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.

เดชดนัย จุยชุม, เกษรา บาวแชมชอย, และศิริกัญญา แกนทอง. (2559). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทักษะการคิดของนักศึกษาในรายวิชาทักษะการคิด (Thinking Skills) รหัสวิชา 11-024-112 ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ด้วยการเรียนรู้แบบมีสวนรวม (Active Learning). วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 3(2), 47-57.

นนทลีพร ธาดาวิทย์. (2559). การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning. กรุงเทพฯ: ทริปเพิ้ล เอ็ดดูเคชั่น.

พระมหาอรรถพงษ์ อตถญาโน, บัญชา เกียรติจรุงพันธ์, คชา ประณีตพลกรัง, บัญชา ธรรมบุตร. (2562). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในวิชาหลักภาษาไทย. วารสารครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 1(1), 1-9.

วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ใน ศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรีสฤษดิ์วงศ์.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). รายงานความก้าวหน้าการจัดการเรียนรู้ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานปี 2561-2562. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

Chickering, Arthur W., and Zelda F. Gamson. March. (1987). Seven Principles for Good Practice in Undergraduate Education. AAHE Bulletin. American Association for Higher Education. Washington, D.C.

Bonwell, C.C.; & Eison.J. A. (1991). Active Learning: Creative Excitement in the Classroom. ASHE-ERIC Higher Education Reports No. 1. Washington, D.C. Chickering, Arthur W., and Zelda F. Gamson. March. (1987). Seven principles or good Practice. AAHE Bulletin 39: 3-7. ED 282 491. 6pp. MF-01; PC-01.

Mckinney, S.E. (2008). Developing Teachers for High-Poverty Schools: The Role of the Internship Experience. Urban Education. 43(1), 68-82.

Sweller,J. (2006). The worked example effect and human cognition: Learning and Instruction. New Jersey: Educational Technilogies.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-08-28

รูปแบบการอ้างอิง

ผางคำ เ. . (2023). การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา ED 2071 วรรณกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ Active Learning. วารสารวิชาการ มจร บุรีรัมย์, 8(2), 77–90. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/ambj/article/view/262659

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research Articles