การสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์จังหวัดชัยภูมิต่อสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
คำสำคัญ:
การสาธารณสงเคราะห์, คณะสงฆ์, โรคโควิด-19บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความคิดเห็นของประชาชนต่อการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์จังหวัดชัยภูมิในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 2) ศึกษาแนวทางส่งเสริมการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์จังหวัดชัยภูมิต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และ3) ศึกษาการนำหลักพุทธธรรมมาประยุกต์ใช้ในการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์จังหวัดชัยภูมิต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ระหว่างวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีเครื่องมือวิจัย คือ จากแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ โดยมีกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 400 คน ที่ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 และทำการสุ่มตัวอย่างแบบตามสะดวก และกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 30 คน ที่มาจากการเลือกแบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์แบบเชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ระดับความคิดเห็นของประชาชนต่อการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์จังหวัดชัยภูมิในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 3 ลำดับแรก ได้แก่ คณะสงฆ์มีส่วนร่วมในการรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ( = 4.79) ประชาชนได้รับความรู้จากคณะสงฆ์ในการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ( = 4.43) ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากคณะสงฆ์เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ( = 4.33)
2. แนวทางส่งเสริมการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์จังหวัดชัยภูมิต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มี 4 ด้าน คือ ด้านการจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูล ด้านการช่วยเหลือเกื้อกูลกิจการของผู้อื่นเพื่อสาธารณประโยชน์ ด้านการช่วยเหลือเกื้อกูลสถานที่อันเป็นสาธารณสมบัติ ด้าน การช่วยเหลือเกื้อกูลประชาชนทั่วไป
3. การนำหลักพุทธธรรมมาประยุกต์ใช้ในการสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์จังหวัดชัยภูมิต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นั้น คณะสงฆ์เป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธาของประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งสามารถนำหลักพุทธธรรมมาปรับใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม
เอกสารอ้างอิง
กมลาศ ภูวชนาธิพงศ์และคณะ.(2561). โครงการสุขชีวีวิถีพุทธในชุมชนเมือง ยุค 4.0: กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน บ้าน วัด โรงเรียน. รายงานการวิจัย. พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ไทยรู้สู้โควิด. (2564). สถิติการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย. เข้าถึงได้จาก https://www.facebook.com/thaimoph/?ref=page_internal (สืบค้นเมื่อ 13 กันยายน 2564).
พระมหานิพนธ มหาธมฺมรกฺขิโต และคณะ. (2561). รูปแบบการเจริญเมตตาภาวนาที่มีผลตอสุขภาวะของผูสูงอายุ. รายงานการวิจัย. พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระใบฎีกาพงษ์ศักดิ์ ขนฺติพโล (รอดทะยอย) และพระมหากฤษณ์ชนินต์ เสฎฐเมธี (เดชจักรบดินทร์). (2560). กลยุทธ์การบริหารจัดการด้านสาธารณสงเคราะห์ของ พระสังฆาธิการในเขตอำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา. รายงานการวิจัย. พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วิกิพีเดีย. (2564). การระบาดทั่วของโควิด-19. วันที่สืบค้น 7 กันยายน 2564, จาก https://th.wikipedia.org/wikiการระบาดทั่วของโควิด-19
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารวิชาการ มจร บุรีรัมย์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น ไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของบรรณาธิการ