การพัฒนาสื่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับครูซึ่งไม่ได้จบสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อยกระดับผลการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ กรณีศึกษาระดับ ประถมศึกษาชั้นปีที่ 4-6 โรงเรียนริมโขงวิทยา จังหวัดเชียงราย
คำสำคัญ:
การพัฒนาสื่อ, คำศัพท์ภาษาอังกฤษ, ครูซึ่งไม่ได้จบสาขาวิชาภาษาอังกฤษบทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาสื่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับครูซึ่งไม่ได้จบสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อยกระดับผลการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 – 6 โรงเรียนริมโขงวิทยา จังหวัดเชียงราย 2) พัฒนาคู่มือแนะแนวการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับครูซึ่งไม่ได้จบสาขาวิชาภาษาอังกฤษ กรณีศึกษาระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 – 6 โรงเรียนริมโขงวิทยา จังหวัดเชียงราย และ 3) ศึกษาความคิดเห็นและความพึงพอใจของครูที่ไม่ได้จบสาขาวิชาภาษาอังกฤษที่มีต่อสื่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 – 6 โรงเรียนริมโขงวิทยา จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นการวิจัยแบบเฉพาะกรณี (Case Study) ปีการศึกษา 2564 ประชากร ได้แก่ ครูในโรงเรียนริมโขงวิทยา ทั้งหมดรวม 14 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจุดมุ่งหมาย เครื่องมือในการเก็บข้อมูล ประกอบด้วย สื่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ แบบประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ แบบสอบถามความคิดเห็นและความพึงพอใจของครูที่มีต่อสื่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ และแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและและหลังเรียนของการใช้สื่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 – 6 โรงเรียนริมโขงวิทยา จังหวัดเชียงราย มีผลสัมฤทธิ์ที่ดี สื่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษช่วยให้ผู้เรียนมีพัฒนาการที่ดีขึ้น มีค่าเฉลี่ยคะแนนรวมก่อนเรียนเท่ากับ 8.86 และมีค่าเฉลี่ยคะแนนรวมหลังเรียนเท่ากับ 14.46
2. ผลการประเมินคุณภาพของคู่มือแนะแนวการสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับครูซึ่งไม่ได้จบสาขาวิชาภาษาอังกฤษ กรณีศึกษาระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 – 6 โรงเรียนริมโขงวิทยา จังหวัดเชียงราย มีดัชนีความสอดคล้องเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 0.91 มีความสอดคล้องกับประเด็นการประเมิน
3. ผลประเมินความคิดเห็นและความพึงพอใจของครูที่ไม่ได้จบสาขาวิชาภาษาอังกฤษที่มีต่อสื่อการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 – 6 โรงเรียนริมโขงวิทยา จังหวัดเชียงราย มีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.27 อยู่ในระดับดี
เอกสารอ้างอิง
คีรีบูน จงวุฒิเวศย์ และมาเรียม นิลพันธุ์. (2542). การศึกษาและจัดทำคู่มือปฏิบัติงานอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มส.). รายงานการวิจัย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
จุฑาทิพย์ กฐินทอง และสุรัตนา อดิพัฒน์. (2565). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยการจัดการเรียนรู้แบบใช้เกมเป็นฐานสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. Journal of Modern Learning Development, 7(4), 326.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (ม.ป.ป.). (2565). สทศ. NIETS สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). เข้าถึงได้จาก http://www.niets.or.th (สืบคนเมื่อ 12 มกราคม 2566).
สำเนา ศรีประมงค์. (2547). การศึกษาผลการใช้เกมคําศัพท์ประกอบการสอนที่มีต่อความคงทน ในการเรียนรู้คําศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สิริลักษณ์ เฟื่องกาญจน์. (2531). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการรู้ความหมายคำศัพท์ละเจตคติต่อวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยเกมส์ประกอบและไม่มีเกมประกอบ. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Allen, V. (1983). Techniques in Teaching Vocabulary. Oxford: Oxford University Press.
Bloom, B. (1964). Taxonomy of Education Objectives Hangbook 1: Cognitive Domain. New York: David Mackey Company, Inc.
Terrell, S. K. (1988). The natural approach: language acquisition in classroom. Great Britain: Pergamon Alemany Press.
Russell, David H. (1961). Children Learn to Read. New York Ginn and Company.
Uraiwan Sritiwong. (30 August 2559). KruoiySmartEng. Retrieved from Blogger.com: https://kruoiysmarteng.blogspot.com/2016/08/blog-post_88.html?fbclid =IwAR3nWJfYB5oPzAiQ5wlcHyThYSz-eVpD34xwtxdJog54faRHs5nrR3q1DJg (Accessed 15 January 2023).
V., D. (2002). The influence of affective variable on EFL/ESL learning and teaching. The journal of imagination in Language and Traching, 7, 92-97.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารวิชาการ มจร บุรีรัมย์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น ไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของบรรณาธิการ