การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาด Covid -19 ตามหลักสัมมัปปธาน 4 ในเขตอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์

ผู้แต่ง

  • พระเชษฐา สุวณฺณปุตฺโต (ชมวัน) มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด
  • พระครูกิตติวราทร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด

คำสำคัญ:

การมีส่วนร่วมของประชาชน, การป้องกันการแพร่ระบาด Covid-19, หลักสัมมัปปธาน 4

บทคัดย่อ

             การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาด covid 19 ตามหลักสัมมัปปธาน 4 ในเขตอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ 2) เปรียบเทียบความคิดเห็นการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดcovid-19 ตามหลักสัมมัปปธาน 4 จำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษาและอาชีพ 3) ศึกษาข้อเสนอแนะการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาด covid-19 ตามหลักสัมมัปปธาน 4 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 380 คน เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา เท่ากับ 0.67-1.00 และมีความเชื่อมั่นเท่ากับ .98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐานได้แก่ ค่า t-test และ F-test (One-Way ANOVA)
             ผลการวิจัยพบว่า
             1. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาด covid -19 ตามหลักสัมมัปปธาน 4 โดยรวมอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\fn_jvn&space;\bar{x}=3.62) โดย ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรม (gif.latex?\fn_jvn&space;\bar{x}=3.67) รองลงมา คือ การมีส่วนร่วมในการรับประโยชน์ (gif.latex?\fn_jvn&space;\bar{x}=3.62) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (gif.latex?\fn_jvn&space;\bar{x}=3.58)
             2. ผลการเปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาด covid 19 ตามหลักสัมมัปปธาน 4 จำแนกตามเพศและระดับการศึกษา ไม่แตกต่างกัน ส่วนจำแนกตามอายุ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
              3. ข้อเสนอแนะการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาด covid 19 ตามหลักสัมมัปปธาน 4 พบว่า ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในโครงการรณรงค์ป้องกันโรคโควิค-19 โดยให้เข้ามาร่วมวางแผน ปฏิบัติและประเมินงาน เพื่อแก้ปัญหาของชุมชนที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน

เอกสารอ้างอิง

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2564). แนวทางการให้วัคซีนโควิด 19 ในสถานการณ์การระบาดปี 64 ของประเทศไทย ปรับปรุงครั้งที่ 2. นนทบุรี: กรมควบคุมโรคติดต่อ.

กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2563). คู่มือ อสม. ยุคใหม่. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กระทรวงสาธารณสุข. (2563). คู่มือการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับประชาชน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์.

บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2552). พุทธธรรม ฉบับปรับปรุงและขยายความ. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

เมตต์ เมตต์การุณ์จิต. (2553). การบริหารจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม: ประชาชน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และราชการ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บุ๊คพอยท์.

ฆายนีย์ ช.บุญพันธ์. (2565). พฤติกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19): กรณีศึกษาตำบลยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

ธนพัชญ์ เผือกพิพัฒน์. (2564.) การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ ในสถานการณ์โควิด-19 กรณีศึกษา : แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร. วารสารการบริหารการปกครองและนวัตกรรมท้องถิ่น, 5(2), 1-14.

รัถยานภิศ รัชตะวรรณ และคณะ. (2561). กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาสุขภาวะ. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 11(1), 231-238.

วรยุทธ นาคอ้าย, กมลนัทธ์ม่วงยิ้ม และเดชา วรรณพาหุล. (2563). กระบวนการมีส่วนร่วม ในการป้องกันโรคโควิด 19 กรณีศึกษา ผู้สูงอายุพฤฒิพลังชุมชนหนองตะโก. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัย ธนบุรี, 14(3), 20–30.

สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. (2563). โครงการวิเคราะห์รายจ่ายต่อหัวที่ปรับด้วยโครงสร้างอายุของระบบหลักประกันสุขภาพ. กรุงเทพฯ: สำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ.

สอยฤทัย เกลี้ยงนิล. (2563). รัฐ-ชุมชนกับการจัดการภัยพิบัติโรคไวรัส COVID-19 ถนนข้าวสาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร. เข้าถึงได้จาก http://www3.ru.ac.th/mpa-abstract/files/2562_1597741815_6114832006.pdf (สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2564).

สุมาลี จุทอง. (2563). การจัดการภัยพิบัติโรคระบาด COVID-19 ในพื้นที่ชุมชนหมากน้อย. เข้าถึงได้จาก http://www3.ru.ac.th/mpa-abstract/files/2562_ 1597737114_6114832048.pdf (สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2564).

Gilmore, B., Ndejjo, R., Tchetchia, A., de Claro, V., Mago, E., Diallo, A. A., Bhattacharyya,S. (2020). Community engagement for COVID-19 prevention andcontrol: A rapidevidencesynthesis. BMJ Global Health, 5(10), 59-70. e003188. doi:10.1136/bmjgh-2020-003188

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Sathiadas, M. G. (2020). Community participation during Covid-19. Jaffna Medical Journal, 32(1), 1-12. 1.doi:10.4038/jmj.v32i1.84

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-12-26

รูปแบบการอ้างอิง

สุวณฺณปุตฺโต (ชมวัน) พ. ., & พระครูกิตติวราทร. (2023). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาด Covid -19 ตามหลักสัมมัปปธาน 4 ในเขตอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์. วารสารวิชาการ มจร บุรีรัมย์, 8(3), 225–236. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/ambj/article/view/267321

ฉบับ

ประเภทบทความ

Research Articles