การพัฒนารูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยกระบวนการบริหารคุณภาพ ของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดอุดรธานี
คำสำคัญ:
รูปแบบการบริหาร, ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน, กระบวนการบริหารคุณภาพ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอุดรธานีบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยกระบวนการบริหารคุณภาพ ของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดอุดรธานี 2) สร้างรูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยกระบวนการบริหารคุณภาพ ของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดอุดรธานี 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยกระบวนการบริหารคุณภาพของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดอุดรธานี และ 4) ประเมินการใช้รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยกระบวนการบริหารคุณภาพของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดอุดรธานี กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้บริหาร ครู ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 168 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง แบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับที่มีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.95 และแบบประเมิน สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัจจุบัน พบว่า ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนมีปัญหา การจัดการข้อมูลไม่เป็นระบบ ขาดการพัฒนาบุคลากรเฉพาะทาง ข้อจำกัดด้านความร่วมมือจากผู้ปกครองและชุมชน ขาดแคลนทรัพยากรที่จำกัดการประสานงานกับหน่วยงานภายนอกที่ยังไม่มีประสิทธิภาพและความต้องการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า ต้องการรูปแบบการบริหารที่ชัดเจน มีเครื่องมือและแนวทางในการปฏิบัติงาน และการอบรมเพื่อเพิ่มทักษะต้องการระบบดูแลที่มีคุณภาพโปร่งใส มีการสื่อสารสม่ำเสมอ และสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา
2. ได้รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยกระบวนการบริหารคุณภาพ ของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดอุดรธานีได้รูปแบบการบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน UD Care Model
3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยกระบวนการบริหารคุณภาพ ของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดอุดรธานี พบว่าโดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
4. ผลการประเมินการใช้รูปแบบ พบว่า ความคิดเห็นผู้บริหารสถานศึกษา กรรมการสถานศึกษา ครูผู้สอน และผู้ปกครองที่มีต่อความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยกระบวนการบริหารคุณภาพ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เอกสารอ้างอิง
โกมุท รุยอ่อน. (2562). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3. เข้าถึงได้จาก http://www.utdone.net/polngarn/ kom/komut.html
นลินี บัวอ่อน. (2566). การพัฒนารูปแบบการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้เครือข่ายการมีส่วนร่วมระดับตำบล โรงเรียนท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี.
พงศ์พันธุ์ ไชยวัณณ์. (2560). รายงานผลการดำเนินงานตามกลยุทธ์การยกระดับคุณภาพการให้บริการทางการศึกษาตามมาตรฐานและตัวบ่งชี้ของมาตรฐานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 4. (รายงานผลการดำเนินงาน). เชียงใหม่: เขตพื้นที่การศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่เขต 4.
วันชัย จันทราการกุล. (2558). การพัฒนาทักษะด้านการเขียนสำหรับนักเรียนที่มีภาวะออทิซึมสเปกตรัม โดยใช้ชุดการเรียนรู้รักการเขียน. วารสารวิจัยและพัฒนาการศึกษาพิเศษ, 11(2), 66-75.
วรางคณา ผลประเสริฐ. (2556). แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเชิงกลยุทธ์ ในประมวลสาระชุดวิชาการจัดการเชิงกลยุทธ์ในการบริหารโรงพยาบาล หน่วยที่ 1-5. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
สมพร หวานเสร็จ. (2552). การพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก โดยใช้สื่อสนับสนุนการเรียนรู้ผ่านการมอง. ขอนแก่น: คลังนานาวิทยา.
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา. (2547). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพมหานคร.
สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. (2555). แนวทางการนิเทศการจัดการศึกษาของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานบริหารงานการศึกษาพิเศษ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
อภิสิทธิ์ รอดบำเรอ. (2559). รูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6. วารสารวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 10(2), 222-233.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการ มจร บุรีรัมย์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น ไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของบรรณาธิการ