ย้อนรอยพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. 121 กับแนวคิดในการใช้เป็นเครื่องมือสร้างระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
คำสำคัญ:
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองสงฆ์, แนวคิด, ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์บทคัดย่อ
ภายหลังกฎพระสงฆ์ในสมัยรัชกาลที่ 1 รัฐ (กษัตริย์) สยามได้ตรากฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับคณะสงฆ์ออกมาอีกหลายฉบับ แต่กฎหมายเหล่านี้ล้วนมุ่งเน้นไปที่การควบคุมการประพฤติผิดพระธรรมวินัยของพระภิกษุ สามเณร เป็นหลัก มิได้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการจัดโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ จนกระทั่งในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งเป็นยุคสมัยแห่งการปฏิรูปพระศาสนาครั้งสำคัญ จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. 121 ขึ้นซึ่งเนื้อหาของกฎหมายฉบับนี้ มิได้เกี่ยวข้องกับรายละเอียดข้อปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระสงฆ์ หากแต่เป็นเรื่องการจัดวางตำแหน่ง ตลอดจนอำนาจหน้าที่ในการปกครองสังฆมณฑลของพุทธศาสนาแบบไทยอย่างเป็นลำดับชั้น มีสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจนดุจเดียวกับระบบราชการ
อาจกล่าวได้ว่า พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. 121 เป็นกฎหมายที่บัญญัติถึงลักษณะการปกครองฝ่ายพุทธจักร ให้เป็นระเบียบแบบแผน (อย่างเป็นทางการ) ฉบับแรก ทั้งนี้ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ในยุคต่อมา ต่างก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องโครงสร้างการปกครองเป็นหลักเช่นเดียวกัน ส่วนกฎเกณฑ์ที่ใช้ควบคุมดูแลวัตรปฏิบัติของพระภิกษุ สามเณรให้เป็นไปโดยถูกต้องตามพระธรรมวินัย จะปรากฏอยู่ในรูปของกฎหมายลำดับรอง ที่ออกโดยอาศัยอำนาจจากพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งอาจตราขึ้นเป็นสังฆาณัติหรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม ตามแต่ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติฉบับนั้น ๆ
เอกสารอ้างอิง
กิติรัตน์ สีหบัณฑ์. (2534). พระสงฆ์อีสานเข้ากรุงเทพฯ สมัยแรก ๆ. ศิลปวัฒนธรรม, 12(9), 112-119.
คณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2558). การปกครองคณะสงฆ์ไทย(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
คะนึงนิตย์ จันทบุตร. (2528). การเคลื่อนไหวของยุวสงฆ์ไทยรุ่นแรก พ.ศ. 2477-2484. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
จันทจิรา เอี่ยมมยุรา. (2547). หลักการรวมศูนย์อำนาจและหลักการกระจายอำนาจในทางปกครอง. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ธีระพงษ์ มีไธสง. (2557). พระสงฆ์กับอำนาจรัฐไทย: บทเรียนจากอดีต-พระธรรมยุตสายอีสาน. ศิลปวัฒนธรรม, 35(4), 146-168.
นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2558). น้ำยาของรัฐในทางศาสนา. มติชนสุดสัปดาห์, 13-19, 30-32.
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. (2560). กฎหมายมหาชน เล่ม 4: รัฐ. กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
ปฐม ตาคะนานันท์. (2551). คณะสงฆ์สร้างชาติ สมัยรัชกาลที่ 5. กรุงเทพฯ: มติชน.
ประกาศมหาสมณุตมาภิเศก. (2464, 12 เมษายน). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 38 หน้า 10-12.
ประทีป ฉายลี. (2551). การเมืองเรื่องตุ๊เจ้าในเวียงพิงค์เจียงใหม่ในยุคปฏิรูป: กรณีครูบาโสภาแห่งวัดฝายหิน. ศิลปวัฒนธรรม, 29(11), 104-106.
ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง. (2538). เพ็ชร์ลานนา (2) (พิมพ์ครั้งที่ 2). เชียงใหม่: ผู้จัดการศูนย์ภาคเหนือ.
พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2558). ศาสนาประจำชาติไทย. สืบค้น 20 ตุลาคม 2567, จาก https://www.mcu.ac.th/article/detail/14216
ภัชราพร ช้างแก้ว. (2530). พุทธศาสนากับการก่อตัวของรัฐไทยแบบใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วรเจตน์ ภาคีรัตน์. (2557). คําสอนว่าด้วยรัฐและหลักกฎหมายมหาชน (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. (2551). พระดำรัสสั่งคำวินิจฉัย ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2463. ใน ประมวลพระนิพนธ์ฯ พระมหาสมณวินิจฉัย (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.
แสวง อุดมศรี. (ม.ป.ป.). การปกครองคณะสงฆ์ไทย. กรุงเทพฯ: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
โสภา ชานะมูล. (2561). ครูบาศรีวิชัยตนบุญแห่งล้านนา. ใน วสันต์ ปัญญาแก้ว และชัยพงษ์ สำเนียง (บ.ก.), รําลึก 140 ปี ชาตกาล ครูบาศรีวิชัย. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
อนันต์ วิริยะพินิจ และนภนาท อนุพงศ์พัฒน์. (2549). การปฏิรูปพุทธศาสนาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.


