บทบาทของการสื่อสารทางการเมืองในการสร้างความเข้าใจและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบบประชาธิปไตย
คำสำคัญ:
การสื่อสารทางการเมือง, การมีส่วนร่วมของประชาชน, ความเข้าใจทางการเมืองบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ศึกษาบทบาทของการสื่อสารทางการเมืองในการสร้างความเข้าใจและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบบประชาธิปไตย การสื่อสารทางการเมืองเป็นกระบวนการที่สำคัญที่มีผลต่อความรู้ ความเข้าใจ และทัศนคติของประชาชนต่อการดำเนินงานของภาครัฐและนโยบายต่าง ๆ ในปัจจุบัน การสื่อสารผ่านสื่อมวลชน โซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มออนไลน์มีความรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่าย
ทำให้การสื่อสารทางการเมืองเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งข้อมูลและปลุกจิตสำนึกการมีส่วนร่วมของประชาชน
โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ส่วนแรกอธิบายแนวคิดและความสำคัญของการสื่อสารทางการเมืองในฐานะเครื่องมือที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง โปร่งใส และเป็นกลางแก่ประชาชน ซึ่งช่วยให้ประชาชนเข้าใจนโยบายและการตัดสินใจของผู้นำ ส่วนนี้ยังวิเคราะห์ว่าการสื่อสารมีผลอย่างไรต่อการสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเมืองและรัฐบาล ส่วนที่สองกล่าวถึงกลไกและรูปแบบการสื่อสารทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียในการเผยแพร่ข้อมูล การอธิบายนโยบาย และการสื่อสารกับประชาชน วิธีการเหล่านี้ช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินงานของรัฐบาล และส่วนสุดท้ายวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการสื่อสาร
ทางการเมืองกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแสดงออกทางการเมือง เช่นการเลือกตั้ง และการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของนโยบายสาธารณะ บทความเน้นว่าการสื่อสารทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพจะส่งเสริมความโปร่งใสและความไว้วางใจในระบบการเมือง และเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการประชาธิปไตย
เอกสารอ้างอิง
คมสันต์ บัวติ๊บ และจันทนา สุทธิจารี. (2561). การเมืองในการกำหนดนโยบายสาธารณะ: กรณีศึกษานโยบายด้าน โครงสร้างพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอแห่งหนึ่ง ในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง. วารสารรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์, 9(1), 1-28.
ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ : ด่านสุทธาการพิมพ์.
ไทย พีบีเอส. (2566). ทำไม ? “เรา” ต้องมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย. สืบค้น 6 พฤศจิกายน 2567, จาก https://shorturl.asia/f91Sg
พระครูใบฎีกาวิชาญ วิสุทโธ. (2565). การสื่อสารทางการเมืองในยุคดิจิทัล. วารสารการบริหารการปกครองและนวัตกรรมท้องถิ่น, 6(1), 109-120.
พระสังวาน เขมปญฺโญ และคณะ. (2565). การสื่อสารทางการเมือง. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 7(3), 357-368.
พัททดล เสวตวรรณ และพระครูอุทัยกิจพิพัฒน์. (2565). การสื่อสารทางการเมืองของนักการเมือง. วารสารการบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น, 8(2), 377-389.
วุฒิพร ลิ้มวราภัส และสุวิชา เป้าอารีย์. (2563). กระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์: กรณีศึกษา โพสต์ทูเดย์ และแนวหน้า. วารสารรังสิตบัณฑิตศึกษาในกลุ่มธุรกิจและสังคมศาสตร์, 6(2), 106-118.
อรุณ ขยันหา และกิรติกาญจน์ สดากร. (2563). การพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในสังคมไทยผ่านแนวคิดการสื่อสารทางการเมืองเพื่อการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีของชุมชน. HUSO Journal of Humanities and Social Sciences, 4(1), 90-105.
Grunig, J. E. (2006). Furnishing the Edifice: Ongoing Research on Public Relations as a Strategic Management Function. Journal of Public Relations Research, 18(2), 151-176.
Held, D. (2006). Models of Democracy (3rd ed.). Stanford University Press.
Lazarfeld, P. et al. (1944). The People’s Choice. New York: Columbia University Press.
Maxwell, E. et al. (1972). The Agenda-Setting Function of Mass Media. The Public Opinion Quarterly, 32(6), 176-187.
McCombs, M. E & Shaw, D. L. (1972) The agenda-setting function of mass media. Public Opinion Quarterly, 36(2), 105-117.
Neumann, N. E. (2004). The Spiral of Silence and the Social Nature of Man. In Lynda Lee Kaid (ed.). Handbook of political communication research. pp. 347-348. USA: Lawrence Erlbaum Associates.
Rogers, E. M. (2003). Diffusion of Innovations (5th ed.). New York: Free Press.


