การบูรณาการหลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมศักยภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรศาลปกครอง
คำสำคัญ:
ไตรสิกขา, ศักยภาพบุคลากร, ศาลปกครองบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาศักยภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรศาลปกครอง 2. ศึกษาปัจจัยที่ส่งเสริมศักยภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรศาลปกครอง และ 3. นำเสนอแนวทางการบูรณาการหลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมศักยภาพบุคลากรศาลปกครอง เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยมีขั้นตอนการดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1. การกำหนดกลุ่มเป้าหมายโดยการเลือกผู้ให้ข้อมูลสำคัญแบบเจาะจง 2. การจัดเก็บข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก 3. การบันทึกและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และ 4. การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีพรรณนาโดยใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 25 รูปหรือคน แบ่งเป็น 7 กลุ่ม ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูง ตุลาการ ข้าราชการ พนักงานราชการ และนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย การบริหารราชการแผ่นดิน และพระพุทธศาสนา
ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อแรก พบว่า ศักยภาพของบุคลากรศาลปกครองประกอบด้วย 5 ด้านหลัก ได้แก่ ความโปร่งใส ความถูกต้อง ความมีเอกภาพ คุณภาพมาตรฐาน และการทำงานเป็นทีม ซึ่งทั้งหมดเป็นองค์ประกอบเชิงระบบที่ส่งเสริมความน่าเชื่อถือและความชอบธรรมขององค์กรตุลาการ ตามวัตถุประสงค์ข้อที่สอง พบว่า ปัจจัยเสริมศักยภาพครอบคลุมทั้งความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะส่วนบุคคล โดยมีคุณธรรมเป็นแกนกลางของการพัฒนา และตามวัตถุประสงค์ข้อที่สาม พบว่าการบูรณาการหลักไตรสิกขา ได้แก่ ศีล สมาธิ และปัญญา สามารถยกระดับคุณภาพบุคลากรทั้งในเชิงพฤติกรรม อารมณ์ และกระบวนการคิด ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนา Digital HR และ E- Government โดยเฉพาะในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใส มีเหตุผลและยึดโยงกับคุณธรรม องค์ความรู้ใหม่จากงานวิจัยชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรตุลาการจำเป็นต้องมีการบูรณาการหลักธรรมควบคู่กับการพัฒนาเชิงระบบเพื่อสร้างบุคลากรที่มีทั้งศักยภาพทางเทคนิคและจิตสำนึกด้านคุณธรรมอย่างสมดุล
เอกสารอ้างอิง
กนกวรรณ วิลาวัลย์. (2565). พุทธบูรณาการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในการส่งเสริมสุขภาวะของผู้สูงอายุ (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
คณะกรรมการบริหารศาลปกครอง. (2561). แผนแม่บทศาลปกครอง ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561–2580). กรุงเทพฯ: สำนักงานศาลปกครอง.
คณิตดา กรรณสูต. (2565). พุทธวิธีการบริหารจัดการองค์กรคุณภาพของบริษัทมหาชนจำกัด หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ และคณะ. (2564). ปัญหายุทธศาสตร์เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารภาครัฐ. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 8(1), 91-102.
พรพรรณ โปรเทียรณ์. (2561). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานตามหลักภาวนา 4 ของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูสิริธรรมาภิรัต (ธรรมรัต อริยธมฺโม). (2554). การนำหลักตรสิกขาไปใช้ในการปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 3(2), 1-13.
พระพงษ์ศักดิ์ สนฺตมโน. (2564). พุทธธรรมาภิบาลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลในจังหวัดสระแก้ว (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาวิศิต ธีรวํโส. (2555). การพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านการปกครองของพระสังฆาธิการระดับอำเภอ ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ภาค 11 (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระสมนึก ธีรปญฺญ. (2564). โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุการพัฒนาสมรรถนะต้นแบบข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนนทบุรี หลักสูตรปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สำนักบริหารยุทธศาสตร์. (2565). ผลการวิเคราะห์โอกาสและความท้าทาย ภายใต้แผนแม่บทศาลปกครอง ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566–2570). กรุงเทพฯ: สำนักงานศาลปกครอง.
สุกัญญา รัศมีธรรมโชติ. (2547). แนวทางการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ด้วย Competency-Based Learning (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์.


