การพัฒนาพุทธนวัตกรรมการสื่อสารเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองของเยาวชนในยุคดิจิทัล
คำสำคัญ:
พุทธนวัตกรรม, การสื่อสาร, จิตสำนึกความเป็นพลเมือง, เยาวชน, ยุคดิจิทัลบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของเยาวชนในยุคดิจิทัล 2. พัฒนาพุทธนวัตกรรมการสื่อสารเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองของเยาวชนในยุคดิจิทัล และ 3. ประเมินผลพุทธนวัตกรรมการสื่อสารเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกความเป็นพลเมืองของเยาวชนในยุคดิจิทัล ใช้วิธีวิจัยแบบผสานวิธี 3 ระยะ ได้แก่ 1. การวิจัยเชิงคุณภาพศึกษาข้อมูลจากเอกสาร การสัมภาษณ์และสนทนากลุ่ม ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 20 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา 2. การวิจัยแบบกึ่งทดลองกับกลุ่มเยาวชน จำนวน 30 คน โดยจัดกิจกรรมฝึกอบรม 2 วัน ประเมินผลก่อนและหลังด้วยแบบประเมินจิตสำนึกความเป็นพลเมือง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ Paired Sample t-test และ 3. การวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์กลุ่มเยาวชน กลุ่มครู/วิทยากร และผู้ทรงคุณวุฒิ รวม 3 กลุ่ม ๆ ละ 6 คน รวม 18 คน โดยใช้คำถามสัมภาษณ์ ใบงานและการสังเกตแบบมีส่วนร่วม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1. แนวทางเสริมสร้างความเป็นพลเมือง 4 ด้าน ได้แก่ 1.1 การตระหนักในสิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ 1.2 การใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ 1.3 การมีจริยธรรมในการแสดงออก และ 1.4 การสร้างสมดุลระหว่างสิทธิและความรับผิดชอบ
ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ 5 ขั้นตอนหรือ 5 พา ได้แก่ พาเพลิน (สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย) พาคิด (กระตุ้นด้วยคำถาม) พาทำร่วมกัน (ลงมือปฏิบัติเป็นทีม) พาระลึกรู้ (สะท้อนคิดและรับฟังป้อนกลับ) และพาปลื้มใจ (ภูมิใจในผลงานและความสำเร็จร่วมกัน) 2. การพัฒนาพุทธนวัตกรรมการสื่อสาร พบว่า มีปัญหาทักษะพลเมืองดิจิทัล 10 ด้าน เช่น การรู้เท่าทันสื่อ การคิดวิเคราะห์ การใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม โดยใช้แนวทางฝึกฝนผ่านกิจกรรมบูรณาการด้วยหลักสังคหวัตถุ 4 และโยนิโสมนสิการ และ 3. ผลการประเมินก่อนและหลังการอบรม พบว่า เยาวชนมีลักษณะคุณลักษณะความเป็นพลเมืองตามหลักสังคหวัตถุ 4 การใช้โยนิโสมนสิการ และพฤติกรรมพุทธนวัตกรรมการสื่อสารแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
เอกสารอ้างอิง
กมลาศ ภูวชนาธิพงศ์ และขันทอง วัฒนะประดิษฐ์ (2562). การเสริมสร้างจิตสำนึกด้านคุณธรรมตามหลักพุทธจิตวิทยาสำหรับเยาวชน. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์, 15(ฉบับเพิ่มเติม), 75-88.
ข่าวสารจุฬา. (2563). ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมไทยในมุมมองของนักมานุษยวิทยา. สืบค้น 6 กรกฎาคม 2567, จาก https://www.chula.ac.th/news/27969/
ชูชิต ชายทวีป และคณะ. (2567). ทักษะความเป็นพลเมืองดิจิทัลของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ, 16(3), 147-160.
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต). (2543). กระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคนไปสู่ประชาธิปไตย (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระอนุสรณ์ กิตฺติวณฺโณ และคณะ. (2564). รูปแบบการสร้างเสริมการเป็นพลเมืองดีของนักเรียนเชิงพุทธบูรณาการ. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(9), 293-306.
พักตร์วิภา โพธิ์ศรี. (2561). บทบาทการศึกษาต่อการพัฒนาความเป็นพลเมืองดิจิทัล. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม, 14(1), 15-31.
ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. (2020). การสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย Thailand Internet User Behavior 2022. สืบค้น 6 กรกฎาคม 2567, จาก https://shorturl.asia/GnM5C
สุภัทรชัย สีสะใบ และคณะ. (2567). เยาวชนไทยกับแนวทางการพัฒนาศักยภาพสู่การเป็นพลเมืองดิจิทัลในสังคมวิถีใหม่. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 13(6), 451-464.
_____. (2567). การพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยสู่ความเป็นพลเมืองดิจิทัลในสังคมวิถีใหม่. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 13(3), 275-289.
Bonwell, C. C. & Eison, J. A. (1991). Active Learning: Creating Excitement in the Classroom. ASHE-ERIC Education Report. Washington DC: School of Education and Human Development, George Washington University.
Consoli, T. (2024). Different Media Education Approaches Predict Distinct Aspects of Digital Civic. Frontline Learning Research, 12(4), 113-137.
Ribble, M. (2015). Digital Citizenship in School (3rd ed.). Eugene, Oregon: International Society for Technology in Education.


