การพัฒนาการจัดการศาสนสถานของวัดเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดราชบุรี

ผู้แต่ง

  • พระเมธีวัชรญาณบัณฑิต (ชินภัทร ฉินฺนาลโย) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • ประเสริฐ ธิลาว มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

การพัฒนาการจัดการศาสนสถาน, แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, จังหวัดราชบุรี

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาสภาพปัจจุบัน 2. ศึกษาปัจจัยที่ส่งผล 3. นำเสนอการพัฒนาการจัดการศาสนสถานของวัดเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดราชบุรี เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี  การวิจัยเชิงคุณภาพ สัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 20 รูปหรือคนและการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามจากพระสงฆ์จังหวัดราชบุรีจำนวน 365 รูป วิเคราะห์ข้อมูลหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์การถดถอย แล้วทำการสนทนากลุ่มเฉพาะกับผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 10 รูปหรือคน วิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา สรุปเป็นความเรียง

ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพปัจจุบันของการจัดการศาสนสถานของวัดเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดราชบุรี พบว่า 1. จุดแข็ง วัดในจังหวัดราชบุรี โดยเจ้าอาวาสมีระบบ มีการทำประกันอัคคีภัย 2. ด้านจุดอ่อน ขาดบุคลากรดูแลศาสนสถานของวัด การเงินไม่สมดุลจึงมีปัญหาก่อสร้างหรือบูรณะ 3. ด้านโอกาส มีหน่วยงานหรือชุมชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการบริหารจัดการ 4. ด้านอุปสรรค  สภาพสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง 2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดการศาสนสถานของวัดเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดราชบุรี พบว่า ปัจจัยหลักบริหาร 4 M และปัจจัยหลักสัปปายะ 4 ส่งผลต่อส่งผลต่อการพัฒนาการจัดการศาสนสถานของวัดเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดราชบุรี โดยนำตัวแปรพยากรณ์เข้าไปในสมการทุกตัว ได้ค่า R=.627 ค่า R2=.792a 3. การนำเสนอการพัฒนาการจัดการศาสนสถานของวัดเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดราชบุรี พบว่า 1. ด้านการดูแลรักษา  วัดมีการทำโครงการอนุรักษ์ศาสนสถาน 2. ด้านการปกป้องคุ้มครอง มีกิจกรรมอบรมให้ความรู้และสร้างบุคลากรที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนดูแลศาสนสถาน 3. ด้านการเสริมความมั่นคง เผยแพร่ความรู้ด้านการอนุรักษ์แก่ประชาชน 4. ด้านการใช้ประโยชน์ สร้างรูปแบบการใช้ประโยชน์ศาสนสถานของวัดเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

เอกสารอ้างอิง

กรรณิกา คำดี. (2558). วัดและศาสนสถานในมิติของการท่องเที่ยว. วารสารบัณฑิตศึกษา มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 4(2), 175-191.

ธัญญพัทธ์ ภูริพินิศนันท์. (2565). พุทธวิธีการจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระปลัดวรเมศวร์ นาควโร. (2559). รูปแบบการพัฒนาการบริหารจัดการวัดที่ดีในจังหวัดชัยนาท (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหากิตติกร กิตฺติรกฺโข. (2565). การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของวัดในจังหวัดนนทบุรี (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ

เชิงพุทธ). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี. (2566). วัด สำนักสงฆ์ โบสถ์คริสต์ มัสยิด พระภิกษุ และสามเณร จำแนกตามอำเภอ พ.ศ. 2566. ราชบุรี: สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี.

Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis (3rd ed.). New York: Harper and Row.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-25

รูปแบบการอ้างอิง

(ชินภัทร ฉินฺนาลโย) พ., & ธิลาว ป. (2025). การพัฒนาการจัดการศาสนสถานของวัดเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดราชบุรี. วารสารพุทธนวัตกรรมและการจัดการ, 8(3), 81–92. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/bim/article/view/285205