การพัฒนาการรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การเจริญเติบโตของพืช
Main Article Content
บทคัดย่อ
ในการดำเนินชีวิตในโลกปัจจุบัน เยาวชนจำเป็นต้องมีการพัฒนาการรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อให้สามารถใช้ความรู้วิทยาศาสตร์ในการพิจารณาและแก้ปัญหาต่างๆ โดยหนึ่งในนั้นคือ ปัญหาการใช้สารเคมีในการเกษตรที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกร ความปลอดภัยของผู้บริโภค และปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยการวิจัยปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่สามารถพัฒนาการรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การเจริญเติบโตของพืช และเพื่อศึกษาผลการพัฒนาการรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนจากการใช้การจัดการเรียนรู้ดังกล่าว โดยใช้เครื่องมือเก็บข้อมูลวิจัยจากแผนการจัดการเรียนรู้ แบบสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบการรู้วิทยาศาสตร์ และใบกิจกรรม การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีวิเคราะห์เนื้อหา และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยหาค่าเฉลี่ยและร้อยละ และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแบบสามเส้า ด้านแหล่งข้อมูลและวิธีรวบรวมข้อมูล จากการวิเคราะห์ผล พบว่า แนวทางการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม เรื่อง การเจริญเติบโตของพืช จะต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างความสนใจด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อม ค้นคว้า ระดมความคิด และตัดสินใจหาแนวทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดของห้องเรียน โดยนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้นี้ ส่วนใหญ่มีระดับการรู้วิทยาศาสตร์เพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับผลการพัฒนาสมรรถนะการรู้วิทยาศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นตามวงจร โดยสมรรถนะที่มีการพัฒนามากที่สุด คือ การแปลความหมายข้อมูล
Article Details
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Gresch, H., Hasselhorn, M., & Bögeholz, S. (2015). Enhancing decision-making in STSE Education by inducing reflection and self-regulated learning. Research in Science Education, 47, 95-118.
Hodson, D. (2008). In towards scientific literacy: A teacher guide to history, philosophy and sociology of science Rotterdam. The Netherlands: Sense.
Kijkuakul, S. (2014). Learning management in science: Direction for teacher in 21th century. Phetchabun: Julladis Printing. [in Thai]
Klaynin, S. (2012). The science education in Thailand: developing and deterioration. Samutprakarn: Advance printing service. [in Thai]
Ladachart, L., & Yuenyoung C. (2016). What science teacher should learn from national assessment. Parichart J. (Thailand: Thanksin University), 28(2), 108-137. [in Thai]
Lau, K. C. (2013). Impacts of a STSE high school biology course on the scientific literacy of Hong Kong students. Asia-Pacific Forum on Science Learning and Teaching, 14. Retrieved from http://www.ied.edu.hk/apfslt/
Organization for Economic Co-operation and Development (OECD). (2016). PISA 2015 assessment and analytical framework: Science, reading, mathematic and financial literacy. PISA ; OECD Publishing.
Pedretti, E., & Nazir, J. (2011). Currents in STSE Education: Mapping a Complex Field, 40 Years on. Science Education, 95, 601-626. http://dx.doi.org/10.1002/sce.20435
Rosario, B. I. D. (2009). Science, Technology, Society and Environment (STSE) approach in environmental science for conscience students in a local culture. CHED Accredited Research Journal, (1), 269-283.
The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology (IPST). (2017). What the assessment of PISA 2015 illustrates in policy. Bangkok: The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology. [in Thai]
Yoruk, N., Morgil, I., & Secken, N. (2009). The effects of science, technology, society and environment (STSE) education on students’ career planning. US-China Education Review, 6(8), 68-74.
Zhang, T., Asher, E., Zhang, M., & Yang, J. (2017). Thinking about science: Understanding the science, technology, society and environmental education of Canada. International Journal of Education and Social Science, 4(2), 15-20.