การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT

Main Article Content

มาลินี เตี้ยทอง
วิไล ทองแผ่
ปราโมทย์ จันทร์เรือง

Abstract

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยการใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียน โดยการใช้วิธีการสอนแบบโยนิโสมนสิการ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างการใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT กับวิธีการสอนแบบโยนิโสมนสิการ 4) ศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียน ของนักเรียนกลุ่มที่ใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT และกลุ่มที่ใช้วิธีการสอนแบบโยนิโสมนสิการ และ 5) เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจต่อการเรียน ของนักเรียนระหว่างการใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT กับวิธีการสอนแบบโยนิโสมนสิการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มโรงเรียนเก้าสุพรรณิการ์ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (simple random sampling) จาก 15 โรงเรียนจับสลากได้โรงเรียนวัดโพธิ์ตะควน จำนวน 24 คน แล้วทำการจับสลากอีกครั้งเพื่อแบ่งกลุ่มทดลองจำนวน 2 กลุ่ม จำนวนกลุ่มละ 12 คน กลุ่มทดลองที่ 1 ใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT และกลุ่มทดลองที่ 2 ใช้วิธีสอนแบบโยนิโสมนสิการ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.790 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติการทดสอบที

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการใช้วิธีการสอนแบบโยนิโสมนสิการ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างการใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT กับแบบโยนิโสมนสิการไม่แตกต่างกัน

4. ความพึงพอใจต่อการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มที่ใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และกลุ่มที่ใช้วิธีสอนแบบโยนิโสมนสิการ โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

5. ความพึงพอใจต่อการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างการใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT กับแบบโยนิโสมนสิการไม่แตกต่างกัน

คำสำคัญ: หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา/ วิธีสอนแบบ 4 MAT/ วิธีสอนแบบโยนิโสมนสิการ

 

Abstract

The objectives of this research were 1) to compare the learning achievement of students before and after being taught by 4 MAT method 2) to compare the learning achievement of students before and after being taught by Yonisomanasikran method 3) to compare the learning achievement of students being taught by 4 MAT and Yonisomanasikran methods 4) to study the learning satisfaction of students which had been taught by 4 MAT and Yonisomanasikran methods and 5) to compare the learning satisfaction of students which had been taught by 4 MAT and Yonisomanasikran methods. The sample drawn using simple random sampling from 15 schools was 24 Prathomsuksa 6 students in the kaosuphannika groups school of watphotakuan School, Bang Pla Ma District, Saraburi Province during the second semester of academic year 2013. And a sample were separated into two groups. Each group consisted of 12 students. Students in the first group were taught by 4 MAT method while the students in second group were taught by Yonisomanasikran method. The research instruments used in this research were 1) the 4 MAT learning plan 2) the Yonisomanasikran learning plan 3) the Buddhism principle study achievement test to a reliability of 0.790 and 4) the questionnaire used for asking the learning satisfaction. Means, standard deviation and t-test dependent were used to analyze the data.

The results from this study were as follow:

1. The learning achievement on a Buddhism principle study of Prathomsuksa 6 students after being taught by 4 MAT method was statistically significantly higher than that before at .05.

2. The learning achievement on a Buddhism principle study of Prathomsuksa 6 students after being taught by Yonisomanasikran method was statistically significantly higher than that before at .05.

3. The learning achievement on a Buddhism principle study of Prathomsuksa 6 students being taught between 4 MAT and Yonisomanasikran methods were undifferentiated.

4. The learning satisfactions on Buddhism principle study of Prathomsuksa 6 students being taught by 4 MAT and Yonisomanasikran methods were generally high.

5. The learning satisfactions on Buddhism principle study of Prathomsuksa 6 students being taught by 4 MAT and Yonisomanasikran methods were undifferentiated.

Key words: Principles of Buddhism/ Teaching by 4 MAT/ Teaching by Yonisomanasikran

Article Details

How to Cite
เตี้ยทอง ม., ทองแผ่ ว., & จันทร์เรือง ป. (2014). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการใช้วิธีสอนแบบ 4 MAT. Journal of Education and Innovation, 16(2), 182–194. Retrieved from https://so06.tci-thaijo.org/index.php/edujournal_nu/article/view/17572
Section
Research Articles
Author Biographies

มาลินี เตี้ยทอง

วิไล ทองแผ่

ปราโมทย์ จันทร์เรือง