การพัฒนาจิตรู้เคารพของเด็กปฐมวัยในบริบทพหุวัฒนธรรม การพัฒนาจิตรู้เคารพของเด็กปฐมวัยในบริบทพหุวัฒนธรรม
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อสร้างแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในการพัฒนาจิตรู้เคารพของเด็กปฐมวัยในบริบทพหุวัฒนธรรม 2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมด้านจิตรู้เคารพของเด็กปฐมวัยในบริบทพหุวัฒนธรรม และ 3) เพื่อศึกษาผลการเรียนรู้เรื่องประเพณีและวัฒนธรรมของเด็กปฐมวัยในบริบทพหุวัฒนธรรม กลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กปฐมวัยที่ศึกษาอยู่ระดับชั้นอนุบาล โรงเรียนเมตตาชนูปถัมภ์ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 27 คน เป็นชาวไทยหล่ม 18 คน และชาวเขาเผ่าม้ง 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในการพัฒนาจิตรู้เคารพของเด็กปฐมวัยในบริบทพหุวัฒนธรรม 2) แบบประเมินพฤติกรรมด้านจิตรู้เคารพของเด็กปฐมวัยในบริบทพหุวัฒนธรรม และ 3) แบบวัดผลการเรียนรู้เรื่องประเพณีและวัฒนธรรมของเด็กปฐมวัยในบริบทพหุวัฒนธรรม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ผลการวิจัย พบว่า
1. ได้แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในการพัฒนาจิตรู้เคารพของเด็กปฐมวัยในบริบทพหุวัฒนธรรมที่บูรณาการเข้ากับกิจกรรมประจำวัน 6 กิจกรรมหลัก จำนวน 4 หน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ หน่วยที่ 1 หน่วยประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง มี 5 แผน หน่วยที่ 2 หน่วยประเพณีพาข้าวหย่อง มี 5 แผน หน่วยที่ 3 หน่วยประเพณีปีใหม่ม้ง (1) : การละเล่นโยนลูกช่วง มี 5 แผนและหน่วยที่ 4 หน่วยประเพณีปีใหม่ม้ง (2) : การเล่นตีลูกข่าง มี 5 แผน ใช้เวลาในการสอนทั้งหมด 4 สัปดาห์ ที่ออกแบบแผนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและเน้นการปฏิสัมพันธ์ของผู้เรียนกับสิ่งแวดล้อมในมิติทางสังคมเพื่อให้สร้างจิตสำนึกด้านจิตรู้เคารพ ตามทฤษฎีจิตรู้เคารพ ของ Howard Gardner ซึ่งจากการนำแผนไปใช้จริงพบว่าเป็นแผนที่มีคุณภาพสามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาจิตรู้เคารพของกลุ่มเป้าหมายได้ตามวัตถุประสงค์
2. พฤติกรรมด้านจิตรู้เคารพของเด็กปฐมวัย พบว่า ผู้เรียนมีการแสดงให้เห็นถึงการเข้าใจในวัฒนธรรมของตนเองและของผู้อื่น ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยการให้เกียรติยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล รวมถึงการอยู่ร่วมกันและเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นได้ โดยมีคะแนนประเมินพฤติกรรมก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 41.09 และคะแนนประเมินพฤติกรรมหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 66.31 มีค่าความต่างร้อยละ 25.22 แสดงว่าพฤติกรรมด้านจิตรู้เคารพของเด็กปฐมวัยกลุ่มเป้าหมายมีการพัฒนาขึ้น
3. ผลการเรียนรู้เรื่องประเพณีและวัฒนธรรมของเด็กปฐมวัยในบริบทพหุวัฒนธรรม พบว่า เด็กมีความรู้ความเข้าใจสาระสำคัญของการเรียนเรื่องประเพณีในสังคมพหุวัฒนธรรมตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ในแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยผลคะแนนของทุกหน่วยการเรียนรู้มีค่าคะแนนเฉลี่ยร้อยละคิดเป็น ร้อยละ 79.76 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 70.00
Article Details
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Banks, J. A., & Banks, C. A. (1994). Multicultural education: Issues and perspective (2nd ed.). Boston: Allyn & Bacon.
Boonyanusit, K. (2011). Development of instructional model for enhancing respectful mind and ethical mind based on teaching and learning VIA service learning for undergraduate students (Doctoral dissertation). Bangkok: Srinakharinwirot University. [in Thai]
Bureau of Academic Affairs and Educational Standards. (2003). Early childhood education curriculum 2546. Bangkok: Ministry of Education. [in Thai]
Deachacope, P. (2007). Skill 5C for developing unit learning ang integrated instructional management (17th ed). Bangkok: Chulalongkorn University. [in Thai]
Gardner, H. (2008). Five Minds for the Future. (Acsawatawawich, S., & Makhasiranon, W., Trans.). Bangkok: Expernet. [in Thai]
Khemmani, T. (2013). Teaching science: Knowledge for the development of learning process (17th ed). Bangkok: Chulalongkorn University. [in Thai]
National Education Act of E.D. 2542. (2010, 22 Jul). Royal Thai Government Gazette. No. 27 part 45a. p.1. [in Thai]
Kolomim, K., Namnak, C., Kaewurai, W., & Thumrongsothisakul w. (2014). A development of learning model based on constructivist theory of a scaffolding to enhance mathematic problem solving skill for lower for the Mattayomsuksa 1. Journal of Education Naresuan University, 16(2), 129-133. [in Thai]
Miller, R., & Pedro, J. (2006). Creating Respectful Classroom Environments. Early Childhood Education Journal, 33, 293-299.
Nanthaburom, S., & Sarankura Na Ayudhaya, W. (2015). Effects of using prejudice reduction activities based on multicultural education on understanding diversity in races, religions and cultures among the cultures in the ASEAN Community of Upper Secondary School Students. Journal of Education Studies, 42(1), 139-154. [in Thai]
Panich, V. (2012). 21st Century Learning Path for Disciples. Bangkok: Sadsri-Saritwong Foundation. [in Thai]
Sarattana, V. (2013). New paradigms in education perspectives on 21st century education. Bangkok: Thippayawisood Limited Partnership. [in Thai]
Subcommittee on Academic Reform. (2000). Learning reform the most important lesson. Bangkok: Office of the National Education Commission. [in Thai]
The Secretariat of the Council of Education. (2009). The performance of early childhood development in 3-5 years: Recommendations for caregivers and teachers. Bangkok: Plan for Kids. [in Thai]
Tongthawon, R. (2014). Model of constructivism experience for early childhood children. Chiang Mai: Faculty of Education, Chiang Mai University.
