ความพึงพอใจของผู้รับบริการเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ของศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 8 SATISFACTION OF ASSISTIVE TECHNOLOGY ON LIFE QUALITY DEVELOPMENT FOR PEOPLE WITH DISABILITIES FROM SPECIAL EDUCATION CENTER REGION 8
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้รับบริการเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านความเหมาะสม ประโยชน์ และอุปสรรคที่ได้รับจากศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 8 จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มเป้าหมาย คือ คนพิการด้านการเคลื่อนไหว จำนวน 57 คน ด้านการได้ยิน จำนวน 2 คน ด้านการเห็น จำนวน 11 คน ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลคนพิการ จำนวน 70 คน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 42 คน ด้วยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้ค่าแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาความพึงพอใจการขอรับบริการของคนพิการ ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลคนพิการและการให้บริการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พบว่า ในภาพรวมมีความพึงพอใจในระดับมาก อันเป็นผลของการมีกระบวนการ นโยบายและการจัดการเวลาที่ชัดเจน มีการปรับหรือจัดเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของแต่ละบุคคล ทำให้ผู้พิการมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม สามารถพัฒนาศักยภาพของตน ลดปัจจัยที่เป็นข้อจำกัดต่างๆ มีพัฒนาการทางด้านกายภาพดีขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสให้ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต ความพึงพอใจของคนพิการ ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลคนพิการ และเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการเกี่ยวกับประโยชน์ของเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตหลังจากการใช้ของคนพิการ พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เทคโนโลยีดังกล่าวเอื้ออำนวยความสะดวกให้คนพิการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ได้มากขึ้น ลดข้อจำกัดด้านต่างๆ ทำให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น พึ่งพาผู้อื่นน้อยลง ผู้พิการมีพัฒนาการที่ดีทางด้านสุขภาพจิต มีความร่าเริงแจ่มใส มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างอย่างมีความสุข ทำให้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมและได้รับการยอมรับจากสังคมมากขึ้น จากการวิเคราะห์ข้อมูล ด้านอุปสรรค พบว่า ผู้รับบริการประสบอุปสรรคในระดับมาก ได้แก่ การขาดความรู้เกี่ยวกับสื่อเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก ที่มีการดัดแปลงหรือปรับใช้ให้ตรงกับความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการแต่ละบุคคล ไม่มีตัวอย่างสื่อสาธิตให้ผู้ขอรับบริการทดลองใช้ก่อนการนำไปใช้จริง ขาดการสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลการให้บริการ ส่วนอุปสรรคการให้บริการของเจ้าหน้าที่ พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง คือ เจ้าหน้าที่ของศูนย์การศึกษาพิเศษยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะเฉพาะ รวมทั้งขาดการส่งต่อข้อมูลให้ผู้รับผิดชอบรวบรวมข้อมูลคนพิการ ทำให้หน่วยงานมีข้อมูลไม่ต่อเนื่อง ขาดทักษะการประสานงาน การร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานหลายอย่าง มีงบประมาณจำกัดในการจัดหาเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก และหน่วยงานมีภารกิจสำคัญหลายด้านตามบทบาทหน้าที่ขององค์กร ผู้พิการ ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลผู้พิการ เห็นว่าความเหมาะสมและคุณภาพของเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ในภาพรวมมีปัญหาในระดับมาก นั่นคือ เจ้าหน้าที่ให้ความรู้หรือให้คำปรึกษาเพียงระดับพื้นฐานเกี่ยวกับการดัดแปลง หรือการปรับใช้เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตรงกับความต้องการจำเป็นพิเศษของคนพิการแต่ละบุคคล เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หน่วยงานได้รับไม่ค่อยสอดคล้องกับสภาพความจำเป็นพิเศษของแต่ละบุคคล การดูแลรักษาอุปกรณ์ทำได้ยาก อุปกรณ์ไม่มีความปลอดภัยและไม่สะดวกต่อการใช้งาน ตลอดจนมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้ เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกมีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการ ด้านความเหมาะสมในการให้บริการของเจ้าหน้าที่ พบว่า มีปัญหาความเหมาะสมในระดับปานกลาง
Article Details
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Cheursuwantavee, T. (2008). Prospective on disability through concept and theory. Bangkok: Thana Press. [in Thai]
Kaewjinda, K., & Chatruprachewin, C. (2017). Development of the student care system for disabled in the inclusive schools of basic education. Journal of Education Naresuan University, 19(3), 118 – 132. [in Thai]
Kitthikhun, P. (2008). Cross the limit with mind over. Bangkok: Ki-lane Printing. [in Thai]
Mapong, S. (2008). Access to rehabilitation service of the disabled capability after the disabled registration in particular the comprehensive disability registration at Saraburi Hospital (Master thesis). Bangkok: Thammasat University. [in Thai]
Maslow, A. (1970). Motivation and personality (2nd ed.). New York: Harper & Row.
Ministry of Social Development and Human Security. (2009). Act of promotion and improvement the life quality of the disabled 2007 (2nd ed.). Bangkok: Deesuwon Supply Service. [in Thai]
Niyomadul, T. (2010). Facilities needs of disabled persons to access social services: A case study of Kathu District Phuket Province (Master thesis). Bangkok: Thammasat University. [in Thai]
Pongpeaw, J. (n.d.). Law for disabilities, council of disable people of Thailand. Bangkok: C.P.Y Supply. [in Thai]
Pooprasert, O., & Mupattararoj, T. (2017). Assistive technology: Writing tool “Thai word search program” for students with learning disabilities in Thailand. Journal of Education Naresuan University, 19(3), 370 – 383. [in Thai]
Ruangrittisak, N. (n.d.). IL (Independent Living). Retrieved August 15, 2017, from https://www.dcy.go.th/ [in Thai]
Scherer, M. J. (1996). Outcomes of assistive technology use on quality of life. Disability and Rehabilitation, 18(9), 439-448.
Singpundon, J., Attathammarat, R., & Waansej, S. (2009). State and problems receive of assistive technology for students with learning disability the Office of Khon Kaen Educational Service Area 1-5. Journal of Education Khon Kaen University, 32(2), 22-30. [in Thai]
Sirisomboonlarp, J. (2014). The guidelines of assistive technology for people with disabilities in Thailand to step into ASEAN. Bangkok: Ministry of Education, Department of Empowerment of Persons with Disabilities. [in Thai]
Turner, J. (1974). Development and administration: Operational implications for social welfare. New York: United States Committee, International Council on Social Welfare.