การวิจัยปฏิบัติการเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ เรื่อง กรด-เบส โดยใช้การจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมตามแนวทางสะเต็มศึกษาที่ส่งเสริมทักษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรมของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 AN ACTION RESEARCH ON DEVELOPING LEARNING MANAGEMENT IN THE TOPIC OF ACID BASE USING ENGINEERING DESIGN PROCESS FOLLOWING STEM EDUCATION TO ENHANCE GRADE 11 STUDENTS’ CREATIVITY AND INNOVATION SKILL
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมตามแนวทางสะเต็มศึกษา เรื่อง กรด-เบส ที่ส่งเสริมทักษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรมของนักเรียน ผู้เข้าร่วมวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 49 คน ของโรงเรียนวิทยาศาสตร์แห่งหนึ่งในเขตภาคเหนือตอนล่าง ผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนจำนวน 3 วงจรปฏิบัติการ โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมด 15 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมตามแนวทางสะเต็มศึกษา เรื่อง กรด-เบส จำนวน 3 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินทักษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรมจากใบบันทึกกิจกรรมและจากชิ้นงานของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า ผลการวิจัย พบว่า แนวทางการจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมตามแนวทางสะเต็มศึกษาที่เหมาะสมนั้น ควรมีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 8 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ 2) ขั้นระบุปัญหา 3) ขั้นรวมรวบข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา 4) ขั้นออกแบบวิธีการแก้ปัญหา 5) ขั้นวางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา 6) ขั้นทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน 7) ขั้นนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน และ 8) ขั้นสรุปและประเมินผล โดยมีประเด็นที่ควรเน้น ได้แก่ การทบทวนความรู้พื้นฐานที่จำเป็นให้แก่นักเรียนสำหรับนำไปใช้ในการออกแบบชิ้นงานและแก้ปัญหา การเลือกใช้สถานการณ์ปัญหาควรเป็นสถานการณ์ในชีวิตจริงที่ไกลตัวนักเรียน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนแสดงออกของทักษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงการกระตุ้นนักเรียนให้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาระดับทักษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรม พบว่า หลังกิจกรรมการเรียนรู้ทั้ง 3 วงจรปฏิบัติการ นักเรียนมากว่าร้อยละ 90 มีระดับทักษะการสร้างสรรค์และนวัตกรรมอยู่ในระดับดีมาก
Article Details
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Brophy, S., Klein, S., Portsmore, M., & Rodgers, C. (2008). Advancing engineering education in P-12 classrooms. Journal of Engineering Education, 97(3), 369–387. doi:10.1002/j.2168-9830.2008.tb00985.x
Chomphupart, S. (2011). A development of instructional behavior for the creative problem solving of teachers and students at the science gifted students promotion school using Emancipatory action research (Doctoral dissertation). Bangkok: Srinakharinwirot University. [in Thai]
Dechakup, P., & Yindeesuk, P. (2015). Teaching in the 21st century (2nd ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press. [in Thai]
Dittacharuen, C. (2014). Developing the creative thinking and learning achievement of grade 12 students using project learning base on Constructionism theory of an apply robot subject. Panyapiwat Journal, 5(2), 205-216. [in Thai]
Householder, D. L., & Hailey, C. E. (2012). Incorporating engineering design challenges into STEM courses. Retrieved April 28, 2017, from http://digitalcommons.usu.edu/ncete_publication
Karnkarunyakul, H. (2013). The development of sketching design book based on Constructivism to enhance creative thinking of Mathayomsuksa four students (Master thesis). Bangkok: Silpakorn University. [in Thai]
Kemmis, S., & McTaggart, R. (2000). Participatory action research. In N. Denzin & Y. Lincoln (Eds.), Handbook of qualitative research. Thousand Oaks, CA: Sage.
Kijkuakul, S. (2015). STEM education (Part II): How to integrate stem education in classroom teaching. Journal of Education Naresuan University, 17(3), 154-160. [in Thai]
Khammani, T. (2014). Teaching: Knowledge for organizing processes effective learning (18th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press. [in Thai]
Ministry of Education. (2008). The Basic Education Core Curriculum B.E. 2551. Bangkok: Agricultural Cooperatives of Thailand. [in Thai]
Mincharat, P. (2015). The effects of problem-based learning with STAD to promote collaborative problem solving competency in Chemical Bonding (Independent study). Phitsanulok: Naresuan University. [in Thai]
Morgan, J. R., Capraro, M. M., & Capraro, R. M. (2013). STEM project-based learning: An integrated science, technology, engineering, and mathematics (STEM) approach. Rotterdam: Sense.
Phanmanee, A. (2014). Creative thinking training (2nd ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press. [in Thai]
Pornrungroj, C. (2003). Creative thinking. Bangkok: Chulalongkorn University Press. [in Thai]
Siripattrachai, P. (2013). STEM education and 21st century skills development. Executive journal Bangkok University, 33(2), 49-56. [in Thai]