การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เกษตรอย่างมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่าย PARTICIPATORY DEVELOPMENT OF AGRICULTURAL LEARNING ACTIVITIES WITH NETWORK PARTIES
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสำรวจปัญหาความต้องการของโรงเรียนและชุมชน 2) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เกษตรจากการมีส่วนร่วมกับเครือข่าย และ 3) ติดตามและประเมินผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้เกษตร มีวิธีดำเนินการวิจัย 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 พัฒนาโจทย์วิจัยและหาความต้องการของเครือข่ายและชุมชน ประกอบด้วย 1) นักวิจัยผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาและนักศึกษา 2) ผู้บริหารและครูเกษตรในโรงเรียนไพรบึงวิทยาคม 2 คน 3) ตัวแทนชมรมครูเกษตรในจังหวัดศรีสะเกษ 3 คน ผู้นำชุมชน 1 คน และผู้ปกครอง 5 คน ได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ระยะที่ 2 ออกแบบและสร้างกิจกรรมการเรียนรู้เกษตร 4 ฐาน และทดลองสอนกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 จำนวน 115 คน ประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบความรู้ก่อนเรียนและหลังเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ สำหรับระยะที่ 3 การประเมินผลกิจกรรมโดยการสรุปและสะท้อนผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เกษตรและพัฒนาแนวทางในการถ่ายทอดความรู้ทางการเกษตรที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตในชุมชน โดยการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและไม่ใช่บุคคลในการวิจัยระยะที่ 1 จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การถอดคำสัมภาษณ์ จำแนกถ้อยคำหรือใจความที่กลุ่มผู้ให้ข้อมูลแสดงความคิดเห็นแล้วนำมาตีความ สร้างข้อสรุปอุปนัยแบบความเรียง ผลการวิจัย พบว่า โรงเรียนไพรบึงวิทยาคมตั้งอยู่ที่เลขที่ 50 หมู่ที่ 20 ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่ทั้งหมด 229 ไร่ 96 ตารางวา มีครูและบุคลากรทั้งหมดจำนวน 123 คน และการศึกษาความต้องการของชุมชน และผู้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา พบว่า ประเด็นที่ควรพัฒนาความรู้ด้านการเกษตรให้กับนักเรียนต้องเป็นความรู้ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตจริงของนักเรียนเนื่องจากนักเรียนจะได้รับความรู้หลักวิชาการจากโรงเรียนและสามารถเชื่อมโยงสู่งานอาชีพที่บ้านได้ และการจัดการเรียนควรก่อให้เกิดความรู้ที่คงทน และเป็นความรู้ที่นักเรียนเห็นว่ามีประโยชน์ต่อตนเอง ซึ่งได้กำหนดประเด็นความรู้ คือ “การเลี้ยงไก่พื้นเมืองแบบครบวงจร” การประเมินความรู้ก่อนและหลังเรียน พบว่า นักเรียนมีความรู้ด้านการเลี้ยงไก่พื้นเมืองในทุกฐานสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ p .05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ทางการเกษตรในระดับมาก (
= 0.24, S.D. = 0.26) และพึงพอใจต่อการร่วมกิจกรรม ฐาน 2 การเลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมืองมากที่สุด (
= 4.60, S.D. = 0.49) ทั้งนี้ผู้ทรงคุณวุฒิเห็นว่าสื่อวิดิทัศน์ เรื่อง การเลี้ยงไก่พื้นเมือง มีความเหมาะสมในระดับมาก (
= 3.91, S.D. = 0.29)
Article Details
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Cronbach, L. J. (1970). Essentials of psychological testing (3rd ed.). New York: Harper and Row.
Detyothin, O., Singsriwo, A., & Suksringarm, P. (2017). The development of environmental literacy of mattayomsuksa 3 student using the project-based teaching with problem-solving thinking. Journal of Education Naresuan University, 19(2), 305-317. [in Thai]
Dewey, J. (1963). Experience and education. New York: Macmillan Publishing Company.
Erwin, W. (1976). Participation management: Concept theory and implementation. Atlanta: Georgia State University.
Khammani, T. (2017). Science of teaching: The body of knowledge for effective learning process facilitation (21th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press. [in Thai]
Kolb, D. A., Rubin, I. M., & McIntyre, J. M. (1984). Organizational psychology: A book of readings (4th ed.). New Jersey: Prentice Hall.
Ministry of Education. (2008). Basic Education Curriculum 2008. Bangkok: The Agricultural Cooperative Federation of Thailand. [in Thai]
Office of the National Economic and Social Development Board. (2017). The twelfth national economic and social development plan (2017-2021). Bangkok: Office of the Prime Minister. [in Thai]
Office of the Education Council. (2017). National scheme of education of B.E. 2560-2579 (2017-2021). Bangkok: Prikwarn Graphic. [in Thai]