กลยุทธ์การบริหารจัดการศึกษากึ่งสงเคราะห์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดตาก (THE ADMINISTRATIVE STRATEGY FOR SEMI-WELFARE EDUCATION OF BASIC SCHOOLS IN TAK PROVINCE)
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนากลยุทธ์การบริหารการจัดการศึกษากึ่งสงเคราะห์ ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในจังหวัดตาก วิธีดำเนินการวิจัยมี 4 ขั้นตอน คือ 1) ศึกษาสภาพ ปัญหา และปัจจัย 2) ศึกษากลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ 3) พัฒนากลยุทธ์ และ 4) ทดลองใช้และประเมินกลยุทธ์ วิธีการวิจัย โดยใช้แบบสอบถาม การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง การวิเคราะห์เอกสาร การประชุม เชิงปฏิบัติการ การสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ การทดลองใช้กลยุทธ์ การสนทนากลุ่ม การใช้แบบประเมินกลยุทธ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า
1. สภาพการบริหารการจัดการศึกษากึ่งสงเคราะห์ ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดตาก มีการวางแผนสำหรับจัดการศึกษา การประสานงานเพื่อให้การดำเนินงานตามแผนบรรลุผล การกำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบผลการดำเนินงาน ปัญหาการบริหารการจัดการศึกษากึ่งสงเคราะห์ พบว่าข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษาที่ใช้ประกอบการวางแผนไม่ทันสมัย ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารการจัดการศึกษากึ่งสงเคราะห์ พบว่า มีปัจจัยภายใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านทรัพยากรบุคคล ด้านทรัพยากรทุน และด้านทรัพยากรวิทยาการ และปัจจัยภายนอก 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านนโยบาย ด้านเศรษฐกิจ ด้านเทคโนโลยี และด้านสังคม
2. กลยุทธ์การบริหารการจัดการศึกษากึ่งสงเคราะห์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่ประสบความสำเร็จ พบว่า กลยุทธ์การให้โอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ กลยุทธ์การดูแลช่วยเหลือนักเรียน กลยุทธ์การบริหารงานโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพ กลยุทธ์การสร้างเครือข่ายอุปถัมภ์ กลยุทธ์การพัฒนาแหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ กลยุทธ์การสร้างขวัญกำลังใจให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา
3. การพัฒนากลยุทธ์การบริหารการจัดการศึกษา กึ่งสงเคราะห์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดตาก ประกอบด้วย 1 วิสัยทัศน์, 3 พันธกิจ, 3 เป้าประสงค์, 3 ประเด็นกลยุทธ์, 7 กลยุทธ์, 16 ตัวชี้วัด และ 25 มาตรการ
4. การทดลองใช้และผลการประเมินกลยุทธ์ การบริหารการจัดการศึกษากึ่งสงเคราะห์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในจังหวัดตาก พบว่า โรงเรียนที่ทดลองใช้กลยุทธ์สามารถนำกลยุทธ์ ไปใช้ดำเนินงานได้จริง และรูปแบบของกลยุทธ์ มีความสอดคล้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมาก
Article Details
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
2. Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30, 607-610.
3. Ministry of Education. (2012). The eleventh national education development plan (2012 - 2016). Retrieved March 25, 2014, from https://www.thailibrary.in.th/2014/02/13/thai-edu-master-plan-11/ [in Thai]
4. Rujicheep, P., Wongnaya, S., Pongpinya-opas, S., & Kannil, S. (2016). Strategies for developing life skills of the student in the schools under the office of Kamphaengphet Elementary Education Area 1 and Area 2. Journal of Education Naresuan University, 18(2), 131-141. [in Thai]
5. Tak Primary Educational Service Area Office 2. (2014). Action plan 2014. (Copy). [in Thai]