การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดของคาร์ล ออร์ฟ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการบรรเลงเพลงเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนิสิตดุริยางคศาสตร์สากล THE DEVELOPMENT OF INSTRUCTIONAL MODEL BASE ON CARL ORFF’S CONCEPT TO ENHANCE CREATIVE MUSIC ABILITY FOR WESTERN MUSIC STUDENTS
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดของคาร์ล ออร์ฟ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการบรรเลงเพลงเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนิสิตดุริยางคศาสตร์สากล โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการเรียนการสอน 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบ การวิจัยครั้งนี้ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา มีขั้นตอนการดำเนินการ 4 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอน โดยการศึกษาเอกสารและสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการเรียนการสอน และเอกสารประกอบรูปแบบการเรียนการสอน โดยผู้เชี่ยวชาญ และศึกษานำร่องการใช้หลักสูตร ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาผลเปรียบเทียบความสามารถในการบรรเลงเพลงเชิงสร้างสรรค์ของนิสิตดุริยางคศาสตร์สากล โดยนำรูปแบบการเรียนการสอนไปทดลองใช้กับนิสิตดุริยางคศาสตร์สากล คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีการศึกษา 2561 ชั้นปีที่ 1 ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาทักษะการบรรเลงเดี่ยวและรวมวงดนตรีสากล 2 (234112) โดยได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 19 คน ขั้นตอนที่ 4 การประเมินความพึงพอใจของนิสิตที่มีต่อการเรียนการสอนตามรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอน พบว่า องค์ประกอบที่สำคัญในการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดของคาร์ล ออร์ฟ ได้แก่ ลักษณะการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดของคาร์ล ออร์ฟ แนวทางการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมความสามารถในการบรรเลงเพลงเชิงสร้างสรรค์ และหลักการ แนวทางการจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล ตามรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดของคาร์ล ออร์ฟ
2. ผลการสร้างรูปแบบการเรียนการสอน พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหาสาระการสอน กระบวนการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล ผลการตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการเรียนการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด และผลการทดลองนำร่องเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ พบว่า กิจกรรมตามกระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบเป็นลำดับขั้นตอน สามารถดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างต่อเนื่อง
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน พบว่า นิสิตมีความสามารถในการบรรเลงเพลงเชิงสร้างสรรค์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีคะแนนเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Nakwong, T. (2004). Teaching music for children according to Carl Orff's concept. Bangkok: Publisher of Kasetsart University. [in Thai]
Orff, C. (1976). The schulwerk. London: Schott.
Praphin, C., Kongmanus, K., Chiranuparp, C., & Kaewurai, W. (2017). The development of an instruction model for computer subject based on project – based learning with social media to enhance information communication and technology literacy for upper primary students. Journal of Nursing and Education, 21(1), 30-47. [in Thai]
Sutthichit, N. (2011). Music education: Principles and Essence. Bangkok: Art, Music and Dance Education, Chulalongkorn University. [in Thai]
