The การพัฒนาหลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการออกแบบการวิจัยในชั้นเรียน สำหรับนักศึกษาครู มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี THE DEVELOPMENT OF ONLINE CURRICULUM TO ENHANCE CLASSROOM RESEARCH DESIGN COMPETENCY FOR THE PRE-SERVICE TEACHER IN PHETCHABURI RAJABHAT UNIVERSITY
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาหลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการออกแบบการวิจัยในชั้นเรียนและหาประสิทธิผลของหลักสูตร การพัฒนาหลักสูตรใช้แนวคิดหลักของโอลิวานำมาปรับเป็น 4 ขั้นตอน (2C2A Model) ได้แก่ 1) ศึกษาประเด็นที่ต้องการพัฒนา 2) สร้างหลักสูตร 3) จัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4 ขั้นตอน ดังนี้ 3.1) แนะนำ 3.2) จับคู่ศึกษาค้นคว้า 3.3) นำเสนอและอภิปราย 3.4) สรุป และ 4) วัดและประเมินผล แล้วหาประสิทธิผลด้วยการวัดความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการออกแบบการวิจัยในชั้นเรียน และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์ค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์ค่าที ผลการวิจัย พบว่า หลักสูตรออนไลน์ที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 24.32, SD = 3.45) สามารถพัฒนาสมรรถนะในการออกแบบการวิจัยในชั้นเรียนของนักศึกษาครูได้ และเมื่อหาประสิทธิผลของหลักสูตรออนไลน์กับกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยที่ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง ได้แก่ นักศึกษาครูสาขาวิชาเคมีชั้นปีที่ 4 จำนวน 17 คน ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี โดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบ แบบ One-Shot Case Study พบว่า นักศึกษามีคะแนนความรู้ความเข้าใจเฉลี่ย 4.32 สูงกว่าเกณฑ์แต่ทั้งนี้ไม่พบความแตกต่างทางสถิติ และเมื่อพิจารณารายบุคคล พบว่า นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจผ่านเกณฑ์จำนวน 9 คน จาก 17 คน คิดเป็นร้อยละ 52.94 และนักศึกษามีผลการประเมินความสามารถในการออกแบบการวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับคุณภาพดีมาก (
= 106.18, SD = 8.20) ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) และเมื่อพิจารณารายบุคคลพบว่าผ่านเกณฑ์ 13 คนคิดเป็นร้อยละ 76.47
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Dechakup, P., & Yindesuk, P. (2019). Creating innovation based on research PLC & Logbook. Bangkok: Chulalongkorn University Press. [in Thai]
Kemmis, S., & McTaggart, R. (1988). The action research planer (3rd ed.). Victoria: Deakin University.
Ministry of Education. (2019). Profession of the Teachers Council of Thailand on Professional Standards (Version 4) B.E.2019. Bangkok: Office of the Higher Education Commission. [in Thai]
Ministry of Education. (2019). Bachelor's degree qualification standard Pedagogy and branches education 2019. Bangkok: Office of the Higher Education Commission. [in Thai]
Nillapun, M. (2015). Research methodology in education (9th ed.). NakhonPathom: Research and Development Center Educational Faculty of Education Silpakorn University. [in Thai]
Oliva, P.F. (1982). Developing the curriculum. New York: Harper Collins.
Panich, V. (2019). Classroom research for teacher change How can I be a better teacher. Bangkok: Foundation Siam Commercial College. [in Thai]
Patphol, M. (2019). A practical chapter on classroom research design from theory to practice. Retrieved May 15, 2019, from http://www.curriculumandlearning.com/upload/Books/ClassroomResearch_1564993404.pdf [in Thai]
Patphol, M. (2019). Design of learning management active learning & coaching. Retrieved May 15, 2019, from http://www.curriculumandlearning.com/upload/Active%20Learning/Active%20Learning_1557050288.pdf [in Thai]
Phainoun, S. (2013). A study of learning achievement and satisfaction in teaching on office with cooperative learning by think-pair-share technique. Bangkok: Dhurakij Pundit University. [in Thai]
Uwong, S. (2011). Research for learning development. Retrieved May 15, 2018, from http://www.moe.go.th/wijai/RE%20learn.doc [in Thai]
Yuenyong, Y., & Leareande, W. (2011). Development of a variety of supervision methods for Promoting teachers' research competencies in the classroom. Silpakorn Journal of Research Sciences, 3(2), 196-209. [in Thai]
