การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ท้องถิ่นตามแนวสะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในจังหวัดลำปาง
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ท้องถิ่นตามแนวสะเต็มศึกษาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2) ศึกษาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท้องถิ่นตามแนวสะเต็มศึกษา และ 3) ศึกษาความคิดสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท้องถิ่นตามแนวสะเต็มศึกษา การศึกษาเฉพาะกรณีโดยให้การทดลองหนึ่งครั้ง (One-shot case study) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอแม่ทะ จังหวัด ลำปาง จำนวน 14 คน โดยวิธีเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือ
ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ท้องถิ่นตามแนวสะเต็มศึกษา ประกอบด้วย กิจกรรมมหัศจรรย์การปลูกมะเขือเทศกลับหัว และกิจกรรมการแปรรูปมะเขือเทศ 2) แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ และ 3) แบบประเมินความคิดสร้างสรรค์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท้องถิ่นตามแนวสะเต็มศึกษา เป็นการบูรณาการการสอนวิทยาศาสตร์ที่สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่นที่มีการปลูกมะเขือเทศเป็นอาชีพหลักในชุมชน โดยมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา 6 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ระบุปัญหา 2) รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา 3) ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา 4) วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา 5) ทดสอบ ประเมินผลและปรับปรุงแก้ไข วิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน และ 6) นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน
2. ทักษะกระบวนทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ หลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท้องถิ่นตามแนวสะเต็มศึกษาทั้ง 5 ทักษะ ได้แก่ การตั้งสมมติฐาน การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการของตัวแปร การกำหนดและการควบคุมตัวแปร การทดลอง และการตีความหมายของข้อมูล และลงข้อสรุป อยู่ในระดับดี
3. ความคิดสร้างสรรค์ หลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท้องถิ่นตามแนวสะเต็มศึกษา ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ความคิดคล่องแคล่ว ความคิดยืดหยุ่น ความคิดริเริ่ม และความคิดละเอียดลออ อยู่ในระดับดี
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Chanprasert, S. (2013). Instructional management in science and essential skills in the 21st century. IPST Magazine, 42(185), 10-13.
Chamrat, S. (2017). The definition of STEM and key features of STEM education learning activity. STOU Education Journal, 10(2), 13-34.
Dachakupl, P., & Yindeesuk, P. (2005). Science methods for teaching general science. Bangkok: Develop Academic Quality.
Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology. (2003). Organizing subjects for group learning. Science basic education curriculum. Bangkok: Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology.
Jitraksil, W., Pansuppawat, T., & Choosup, N. (2018). Development of the science process skills using learning management of stem education entitled “Force, Motion, and Energy” science substance group, Mathayom Suksa 1. Journal of Curriculum and Instruction Sakon Nakhon University, 10(27), 87-97.
Joyce, B., & Weil, M. (1996). Model of teaching (5th ed.). Boston: Allyn and Bacon.
Klainin, S., Dejsri, P., & Pramojanee, A. (2006). Learning for Tomorrow's World. Executive summary report. Bangkok: S Plus Prepress System.
Koocharoenpisal, N., Kaewthip, K., Nongnuan, K., & Haritawan, P. (2017). Learning outcome of 9th students using the learning activity packages on the natural rubber latex process integrating science technology engineering & mathematics (STEM). Journal of Education Naresuan University, 19(1), 23-37.
Ministry of Education. (2008). Learning management of science subjects according to the basic education core curriculum, 2008. Bangkok: Agricultural Cooperative Assembly of Thailand Limited.
Ministry of Education. (2009). Basic Education Core Curriculum 2008. Bangkok: Thailand Agricultural Cooperative Assembly Printing House.
Ministry of Education. (2017). Basic Education Core Curriculum B.E. 2551 revised 2017. Bangkok: Agricultural Cooperative Assembly of Thailand Limited.
Office of the Permanent Secretary, Ministry of Education Ministry of Education. (2016). The 12th Education Development Plan of the Ministry of Education (2017 - 2021). Bangkok: Bureau of Policy and Strategy, Office of the Permanent Secretary, Ministry of Education.
Panich, W. (2013). Creating learning for the 21st century (2nd ed.). Bangkok: S. Charoen Phim.
Phonlek, S. (2020). Creative thinking development of Mathayomsuksa 4 students on the topic of chemistry of living organisms based on STEM education and sufficiency economy philosophy (Master thesis). Sakon NaKhon: Sakon NaKhon Rajabhat University.
Phuvipadawat, S. (2001). Creativity promotion techniques (6th ed.) Bangkok: Thai Wattana Panich.
Rattanahiran, T., & Sithsungnoen, C. (2020). Learning management by STEM education to develop science process skill and task creative ability of Matthayomsuesa 1 Students. Journal of Humanities and Social Sciences Review (JHSSR), 22(2), 20-33.
Roadrangka, W., & Dachakupl, P. (1999). Process skills activities for teachers. Bangkok: Quality of Life Development Institute.
Siripatharachai, P. (2013). STEM Education and 21st century skills development. Journal Executive, 33(2), 49-56.
Songkhwae, P., & Onthanee, A. (2017). Development of stem learning units to enhance scientific literacy in the topic of preservation land and rock of maehongson for prathomsuksa 6 students. Journal of Education Naresuan University, 19(3), 210-224.
Srisa-ard, B. (2002). Preliminary research (7th ed.). Bangkok: Chulalongkorn.
Sutharat, W. (2004). Ideas and creativity. Bangkok: Suweeriyasan.
Yıldırım. (2018). STEM applications in mathematics education: The effect of STEM applications on different dependent variables. Turkey: Mus Alparslan University.
