การใช้แนวการสอนแบบอิงประสบการณ์ทางภาษาผ่านสื่อดิจิทัล เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่าน การเขียนภาษาอังกฤษ และการรู้เท่าทันสื่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ 2) เปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เปรียบเทียบความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) ศึกษาระดับการรู้เท่าทันสื่อของนักเรียนที่ได้เรียนตามแนวการสอนแบบอิงประสบการณ์ทางภาษาผ่านสื่อดิจิทัล กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 26 คน โรงเรียนดอยเต่าวิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่ ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบประเมินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษ จำนวน 20 ข้อ แบบทดสอบความสามารถด้านการเขียนภาษาอังกฤษ จำนวน 2 ข้อ และแบบวัดระดับการรู้เท่าทันสื่อ จำนวน 25 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และร้อยละ ผลการวิจัย พบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้น มีทั้งหมด 7 แผน แผนละ 3 ชั่วโมง รวม 21 ชั่วโมง โดยภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก 2) นักเรียนมีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) นักเรียนมีความสามารถด้านการเขียนภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 4) นักเรียนมีระดับการรู้เท่าทันสื่อหลังจากที่ได้เรียนตามแนวการสอนแบบอิงประสบการณ์ทางภาษาผ่านสื่อดิจิทัลอยู่ในระดับสูง
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เจ้าของบทความมิได้คัดลอก หรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด หากเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าวิธีใด หรือการฟ้องร้องไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ กองบรรณาธิการวารสารศึกษาศาสตร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ให้เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความที่จะดำเนินการ
เอกสารอ้างอิง
Dechakup, P., & Yindeesuk, P. (2020). Collaborative active learning and PLC. Bangkok: Chulalongkorn University Press.
English Language Institute Office of the Basic Education Commission. (2016). Manual for teaching English Based on the common European framework of reference languages (CEFR) for secondary. Bangkok: Ministry of Education.
Intasingh, S. (2020). School curriculum administration. Chiang Mai: Faculty of Science, Chiang Mai University.
Milner, J. M. (2008). The language experience approach in second grade reading. USA: Sterva Nevada College.
Ministry of Education. (2008). Basic Education Core Curriculum. Bangkok: Ministry of Education.
Nasongkhla, J. (2018). Digital learning design. Bangkok: Chulalongkorn University Press.
Piaget, D. M. (1979). Descriptive and Inferential Statistical Topics. Dubuque: Kendall Hunt Publishing company.
Prachanban, P., & Kornpuang, A. (2015). The research and development of the measurement instruments of the media literacy skills in the 21st century for secondary students. Phitsanulok: Naresuan University.
Stauffer, R. G. (1980). The Language Experience Approach to the Teaching Reading. New York: Harper and Row Publishing.
Tayjasanant, C. (2021). Psychology for English language learners and teachers. Bangkok: Chulalongkorn University Press.
Tubted, R. (2011). Research and development of English reading teaching model based on language experience approach to develop third grade students’ reading comprehension ability (Doctoral dissertation). Bangkok: Chulalongkorn University.
Wurr, A. J. (2002). Language experience approach revisited: The use of personal narratives in adult L2 literacy instruction. The Reading Matrix, 2(1).
